“ขนมลูกเต๋า” เป็นขนมไทยโบราณที่คุ้นหน้าคุ้นตาของใครหลายคน แต่หลายคนก็ยังไม่เคยลองลิ้มรสขนมชนิดนี้ ซึ่งขนมชนิดนี้เป็นขนมไทยที่มีรสชาติที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คือความหวานมัน ทั้งยังมีไส้ที่หลากหลาย ซึ่งปัจจุบันอาจจะหาทานได้ค่อนข้างยาก แต่ยังมีชาวชุมชนโคกมะม่วง อ. ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ได้ผลิตขนมชนิดนี้ทั้ไส้ดั้งเดิม และคิดไส้ใหม่ซึ่งเป็นผลไม้ท้องถิ่นเช่น เม็ดขนุน เผือก  ตามที่ได้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน มีวิธีทำดังนี้

 

ส่วนผสม
1.แป้งสาลีเอนกประสงต์ 310 กรัม
2.น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
3.น้ำปูนใส 1 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำมันพืช 50 กรัม
5.กะทิ 40 กรัม
6.ไข่แดง 1 ฟอง

วิธีทำขนมลูกเต๋า
1.เคี่ยวน้ำตาลปี๊บกับกะทิ ด้วยไฟอ่อนจนน้ำตาลละลาย แล้วปิดไฟ เทใส่ภาชนะ


2.ใส่น้ำมันพืชลงไป แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำปูนใส เมื่อเย็นลงใส่ไข่แดง แล้วคนจนเข้ากัน
3.จากนั้นเทแป้งที่เตรียมไว้ลงไป  ตะล่อมจนเข้ากัน  นวดผสมจนเข้ากันแล้วจะเริ่มหนืด และพักแป้งไว้ 30 นาที
4.การทำไส้                         

1. ไส้ถั่วกวน นำถั่วเขียวเลาะเปลือกล้างน้ำให้สะอาดแล้วแช่ไว้ประมาณ 5 ช.ม. ก่อนนำมานึ่ง จากนั้นนึ่งถั่วแล้วนำมาบดให้ละเอียดใส่ถั่วลงไปในกระทะ ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือป่น+กะทิ กวนด้วยไฟอ่อน จนถั่วร่อนจากกระทะ จากนั้นพักให้เย็นลง
2. ไส้เผือก นำเผือกไปนึ่งให้สุก ลอกเปลือกออก แล้วใช้ช้อนส้อมกดๆเพื่อบดเผือกให้แตก หรือนำไปปั่นให้ละเอียดออก ผสมกะทิ น้ำตาล เกลือ นำขึ้นตั้งเตา คนส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่เผือกลงไปกวนให้เหนียว จนมีลักษณะล่อนไม่ติดกระทะ ตักขึ้นพักไว้
3. ไส้เม็ดขนุน นำเม็ดขนุนไปนึ่งใหสุก  ลอกเปลือกออก นำไปปั่นให้ละเอียด ผสมกะทิ น้ำตาล เกลือ นำขึ้นตั้งเตา คนส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่เผือกลงไปกวนให้เหนียว จนมีลักษณะล่อนไม่ติดกระทะ พักไว้ให้เย็น

5.ปั้นไส้ น้ำหนักประมาณ 10 กรัม
6.แป้งประมาณ 12 กรัม แผ่ให้เป็นแผ่นแล้วก็ห่อไส้ให้แน่น

7.ทำรูปทรงให้เป็นลูกเต๋า  กดๆ แต่ละด้านเป็นเหลี่ยมให้เท่ากัน
8.ตั้งกระทะให้ร้อน เอาขนมลงไปจี่บนกระทะ ใช้ไฟอ่อน  จี่ให้สุกครบทุกด้าน


หลังจากทำแล้ว ขนมเปลือกจะกรอบ ต้องพักไว้ข้ามคืนจะทำให้เปลือกนุ่มขึ้น

 

อื่นๆ

เมนู