บทความประจำเดือนกันยายน
นางสาวลดาวัลย์ กันรัมย์ (ผู้รับจ้างงาน ประเภทนักศึกษา) หลักสูตรการสร้างธนาคารน้ำใต้ดินเพื่อใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรในครัวเรือนอย่างยั่งยืน (MS01) ประจำตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ “โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาลัย (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ)” ในการปฏิบัติงานประจำเดือนกันยายน เนื่องจากอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ในการลงพื้นที่จึงเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพื่อให้การดำเนินโครงการดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอความร่วมมือกับประชาชนทุกท่านรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน โดยการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งที่เข้า-ออกพื้นที่สาธารณะ เว้นระยะห่าง โดยยืนหรือนั่งให้ห่างกันอย่างน้อย 1.5 -2 เมตร หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก และปาก หลีกเลี่ยงหรืองดการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงหากไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอ จาม หรือมีอาการคล้ายไข้หวัด หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
ธนาคารน้ำใต้ดิน คือ วิธีการเก็บน้ำลงสู่ชั้นดินที่อุ้มน้ำ ซึ่งจะเก็บน้ำในหน้าฝนที่ปริมาณน้ำฝนเยอะเพื่อเอามาใช้ในหน้าแล้ง ซึ่งใช้หลักการเติมน้ำไปเก็บในชั้นใต้ดิน โดยขุดบ่อในบริเวณพื้นที่น้ำท่วม น้ำขัง น้ำหลาก หรือจุดรวมของน้ำเพื่อกักน้ำให้ซึมลงไปชั้นหิน เป็นการพักน้ำรวมไว้เหมือนธนาคาร อีกวิธีคือ การใช้เศษไม้ ขวดแก้ว เศษอิฐ กรวด หิน หรือวัสดุที่มีในท้องถิ่นมาถมในบ่อเพื่อแทนที่น้ำ ซึ่งเป็นวิธีการเติมน้ำลงสู่ชั้นดิน
ประโยชน์ของธนาคารน้ำใต้ดิน
1. ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ เพราะช่วยให้น้ำซึมลงใต้ดินได้ดีขึ้น
2. ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง เพราะสามารถสูบน้ำจากธนาคารน้ำใต้ดินใช้ได้ตลอดเวลา
3. แก้ปัญหาน้ำเค็ม เพราะมวลน้ำเค็มจะมีน้ำหนักมากกว่าน้ำจืด ฉะนั้นน้ำเค็มจะอยู่ด้านล่าง
4. แก้ปัญหาน้ำสกปรก เพราะระบบน้ำแบบปิดจะช่วยกรองน้ำให้สะอาดขึ้น