ข้าพเจ้านางสาวเนตรนภา หมวกไธสง นักศึกษา
ในเดือนกันยายนนี้ ทางกลุ่มผู้ปฏิบัติงานได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่สำรวจชุมชนทางอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการกับผู้ปฏิบัติงานจึงได้ประชุมและสรุปการทำงานในเดือนกันยายนนี้เป็นศึกษาการทำปุ๋ยหมัก เพื่อที่จะถ่ายทอดความรู้ให้แก่ชุมชนที่ยังไม่ได้ทำปุ๋ยหมัก และจากการลงพื้นที่พบว่าชุมชนฝั่งละลมมีการทำปุ๋ยหมักชีวภาพเพื่อใช้ในครัวเรือนโดยมีสูตร ดังนี้
1.ขยะเปียกจะนำขยะเปียกที่แยกประเภทไว้แล้ว เช่น เศษผลไม้ เศษอาหาร มาทำเป็นน้ำหมักเพื่อทำปุ๋ยบำรุงต้นไม้และบำรุงดิน
โดยมีวิธีการทำดังต่อไปนี้
ส่วนผสม : ผัก ผลไม้หรือเศษอาหารเหลือทิ้ง 1 ส่วน + กากน้ําตาล หรือน้ําตาลทรายแดง 1 ส่วน
วิธีผสม : ผสมส่วนผสมเข้าด้วยกันทิ้งไว้ 7 วัน (น้ําหมักจะเริ่มเป็นสีน้ําตาลไหม้มีกลิ่นหอมอมเปรี้ยว ถ้าน้ําหมักมีสีน้ําตาลอ่อน และกลิ่นบูดแสดงว่าใส่น้ําตาลไม่พอให้เพิ่มกากน้ําตาลลงไปอีก กลิ่นบูดจะค่อยๆ หายไปหมักต่อไป ตวงน้ําหมักใส่ขวดหรือภาชนะเก็บในที่มืด ในห้องธรรมดาจะเก็บไว้ได้นาน 6 เดือน ถึง 1 ปี
2.ปุ๋ยหมักจากเปลือกไข่ โดยแต่ละครัวเรือนจะนำเศษเปลือกไข่มารวมกัน สูตรเร่งดอก เร่งผลอย่างด่วน
1 เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อใดก็ได้
2 ผงชูรส
3จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
4 น้ำเปล่า 5 ลิตร
วิธีทำ
นำเครื่องดื่มชูกำลัง 1 ฝา ผงชูรส 1 ช้อนชา จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ฝา ไม่มีใช้ em แทน หรือไม่ต้องใส่ก็ได้นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในน้ำเปล่า 5 ลิตร คนให้เข้ากัน นำไปฉีดพ่นใส่พืชทางใบเพื่อเร่งดอก เร่งผล ช่วงที่เหมาะคือควรพ่นตอนเช้า
3.ปุ๋ยหมักจากใบไม้ โดยการคลุกเคล้าใบไม้แห้ง ปุ๋ยคอก และสารเร่งเชื้อจุลินทรีย์ หรือเชื้ออีเอ็ม ให้เข้าด้วยกันเสียก่อน (ก่อนใช้ควรปรึกษานักวิชาการเกษตร หรือผู้รู้ในท้องถิ่นเสียก่อน) รดน้ำให้มีความชื้นในระดับที่พอดีไม่เปียกโชกไป ไม่แห้งเกินไป เพื่อสร้างสภาวะที่ดีให้กับจุลินทรีย์บรรจุลงในภาชนะที่ใช้หมัก หรือนำไปกองรวมบริเวณที่จัดเอาไว้
นอกจากนี้ปุ๋ยหมักยังมีคุณค่าใน แง่ของการปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์อีกหลายๆ อย่างเช่น ช่วยทำให้แร่ธาตุอาหาร พืชทื่มีอยู่ในดินแปรสภาพมาอยู่ในรูปที่พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่ายขึ้น ช่วยดูดซับแร่ธาตุอาหารพืชเอาไว้ไม่ให้ถูกน้ำฝนหรือน้ำชลประทานชะล้าง สูญหายไปได้ง่าย เป็นการช่วยถนอมรักษาแร่ธาตุอาหารหรือความอุดมสมบูรณ์ ของดินไว้อีกทางหนึ่งเป็นต้น จากคุณสมบัติ ดังที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า แม้ปุ๋ยหมัก จะมีปริมาณแร่ธาตุอาหารในปุ๋ยไม่เข้มขันเหมือนปุ๋ยเคมี แด่ก็มีลักษณะ อื่นๆ ที่ช่วยรักษาและปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินได้เป็นอย่างดี