1. หน้าแรก
  2. พยาบาลศาสตร์
  3. NS01 - ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน
  4. องคมนตรีเชิญสัญญาบัตร พัดยศและผ้าไตร ถวายแด่ พระเทพมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่เหลือง) ที่ วัดกระดึงทอง อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์

องคมนตรีเชิญสัญญาบัตร พัดยศและผ้าไตร ถวายแด่ พระเทพมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่เหลือง) ที่ วัดกระดึงทอง อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์

ข้าพเจ้า นางสาวพิชญาภา ปีตะเสน ประเภทบัณฑิตจบใหม่ (กพร.) ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน
หลักสูตร : NS01 โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยสู่ตำบล เพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมงานองคมนตรีเชิญสัญญาบัตร พัดยศและผ้าไตร ถวายแด่ พระเทพมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่เหลือง) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน  2564 เวลา 16.00 น. ที่วัดกระดึงทอง อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี เชิญสัญญาบัตรพัดยศและผ้าไตร ไปถวายแด่พระเทพมงคลวัชราจารย์ (หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม ) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานสัญญาบัตรตั้ง สมณศักดิ์ พระราชปัญญาวิสารัท วัดกระดึงทอง อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นพระราชาคณะ มีนามว่า พระเทพมงคลวัชราจารย์ ภานาวิธานโกศล โสภณประชาธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม ความวาสี พระราชาคณะชั้นเทพ สถิต ณ วัดกระดึงทอง จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2564  โดยมีนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พระเถรานุเถระ และพุทธศาสนิกชนชาวบุรีรัมย์ร่วมพิธี  พระเทพมงคลวัชราจารย์ หรือ หลวงปู่เหลือง ฉันทาคโม  เจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธรรมยุต) อายุ 94 ปี  พรรษา 74  มีนามเดิมว่า เหลือง ทรงแก้ว  เกิดเมื่อวันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2470 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำเดือน 6 ปีเถาะ ที่บ้านนาตัง ตำบลเขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ บิดาและมารดาคือ นายเที่ยง  ทรงแก้ว และ นางเบียน ทองเชิด  เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง 8 คน

พ.ศ. 2487 ได้บวชสามเณร ที่วัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา เจ้าคุณอริยเวที เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2490 อุปสมบทที่วัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา มีพระญาณดิลก เป็นพระอุปัชฌาย์ ฉายา “ฉันทาคโม”

พ.ศ. 2501 ไปอยู่วัดกระดึงทอง

พ.ศ. 2515 เป็นเจ้าคณะตำบลในเมือง, เป็นเจ้าอาวาสวัดกระดึงทอง พ.ศ. 2517 อบรมพระสังฆาธิการชั้นต้น

พ.ศ. 2518 อบรมพระสังฆาธิการชั้นสูง

พ.ศ. 2519 ได้รับสัญญาบัตร ที่ พระครูวิริยาภิวัฒน์  และเป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ. 2521 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองบุรีรัมย์ (ธ)

พ.ศ. 2522 ให้รักษาการแทน เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ (ธ)

พ.ศ. 2523 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดบุรีรัมย์

พ.ศ. 2528 ได้รับตราตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระชินวงศาจารย์

พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชปัญญาวิสารัท จนถึงปัจจุบัน

พระเทพมงคลวัชราจารย์ เป็นศิษย์อาวุโสรูปหนึ่งของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดถ้ำขาม จ.สกลนคร และพระอริยเวที (เขียน ฐิตสีโล) วัดรังสีปาลิวัน จ.กาฬสินธุ์  ท่านเจริญรอยตามครูบาอาจารย์ คือ การแน่วแน่กับการปฏิบัติภาวนาไม่เสื่อมคลาย อยู่อย่างสมถะ เรียบง่าย ได้รับสมญานามว่าเป็น “พระอรหันต์เจ้าผู้ติดดิน” เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด อบรมสั่งสอนพระธรรมวินัยแก่พระสงฆ์ ตลอดทั้งสอนธรรมะแก่ ศิษยานุศิษย์ มาอย่างต่อเนื่อง ให้การสงเคราะห์ด้านการศึกษา  ด้านสาธารณสุข จัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล จัดตั้งกองทุนอาพาธสงฆ์ของจังหวัดบุรีรัมย์  สำหรับวัดกระดึงทอง ได้รับอนุญาตสร้างเมื่อ ปี พ.ศ. 2512 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2516 กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร มีสิ่งปลูกสร้างเป็น ศาลาเอนกประสงค์ชั้นเดียว ศาลาการเปรียญ 2 ชั้น ความจุได้ 200 คน  มีกุฎิ 23 หลัง สำนักงานเจ้าคณะจังหวังบุรีรัมย์ (ธรรมยุต) มีศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ มีเด็กในศูนย์ 80 คน อุโบสถ 1 หลัง เมรุและศาลาบำเพ็ญกุศล โรงครัว 1 หลัง ห้องน้ำ 4 แห่ง จำนวน 46 ห้อง ส่วนกิจกรรมภายในวัด เป็นที่สอบธรรมสนามหลวง (ธรรมยุต) เป็นที่ประชุมพระสังฆาธิการในจังหวัด เป็นศูนย์อบรมจริยธรรมในนักเรียนกลุ่มอาชีวะ  และการจัดกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

จากการที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานพร้อมกับหน่วยงานสิ่งที่ได้คือ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานในด้าน การติดต่อสื่อสาร ประสานงานกับหน่วยงานและได้เรียนรู้ระบบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

อื่นๆ

เมนู