ประวัติพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ ศรีบุรีรัมย์

ข้าพเจ้านางสาวนุสรีย์ นามปราศัย ประเภทนักศึกษา NS01

หลักสูตร : การพัฒนาสินค้าหัตถกรรม คหกรรมในชุมชนสู่มาตรฐาน NS01

       เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2564 ได้ลงพื้นที่ ณ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน (วัดระหาน) และได้รับมอบหมายให้เขียนบทความเรื่อง ประวัติของพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ ศรีบุรีรัมย์

        เกาะแก้วธุดงคสถาน (วัดระหาน) ดำริการก่อสร้างโดยพระครูเขมคุณโสภณ (หลวงปู่จันทร์แรม) บนที่ดินของคุณสมพงษ์ พูนผล ซึ่งเป็นหลานของหลวงปู่ ด้วยเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นเกาะกั้นคลองลำตะโคง จำนวน 3 เกาะ รวมพื้นที่ 140 ไร่ เป็นสถานที่เงียบสงบเหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนาคณะศรัทธาซึ่งเป็นลูกหลานๆ ของหลวงปู่ จึงพร้อมใจกันถวายที่ดิน เพื่อดำเนินการสร้างวัดในปี พ.ศ. 2536 โดยต่อมาในปี 2539 ได้รับอนุญาตสร้างวัดตามประกาศจากกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากนั้นได้มีพระภิกษุสามเณรเข้ามาอยู่จำพรรษาอย่างต่อเนื่องเสมอมาและต่อมาได้ดำเนินการขออนุญาตตั้งวัดในพระพุทธศาสนา ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2543 ด้วยความเห็นชอบของ มหาเถรสมาคม นามว่า “วัดระหาน” (คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์, 2553)

          และต่อมาได้มีการสร้างพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ ศรีบุรีรัมย์ เป็นพุทะเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอัญเชิญมาจากสามประเทศ ได้แก่ ไทย พม่า ศรีลังกา (สมเด็จพระสังฆราชประทาน) ที่หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ ได้มีปรารถนาให้มีการสร้างขึ้นมา โดยมีเจตนารมณ์ให้เป็นพุทธเจดีย์ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ยังไม่มีเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเลย และเพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่ทั่วไปได้มีโอกาสมากราบสักการบูชา เพื่อเป็นเครื่องหมายการระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกทั้ง เพื่อเป็นสักขีพยานว่าหลวงปู่และผู้ที่มีส่วนแห่งบุญทุกคนได้ร่วมกันสร้างพระมหาเจดีย์นี้ เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการบำเพ็ญบารมี   ลักษณะขององค์พระมหาเจดีย์ เป็นศิลปะประยุกต์ร่วมสมัย ความสูง 60 เมตร มี 4 ชั้น

ชั้นที่ 1 ใช้ประโยชน์เป็นศาลาอเนกประสงค์

ชั้นที่ 2 ของพระมหาธาตุเจดีย์ เป็นที่ซึ่งบรรจุร่างของ พระครูเขมคุณโสภณ หรือหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ มีรูปภาพนิทานชาดกตามฝาผนัง

ชั้นที่ 3 เป็นอุโบสถ พิพิธภัณฑ์และที่ประดิษฐาน รูปเหมือนของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

ชั้นที่ 4 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสมเด็จพระสังฆนายกฝ่ายสยามวงศ์ และพระอัครมหาบัณฑิต วิมละรัตนะ เจ้าอาวาสวัดศรีเวฬุวนาราม ประเทศศรีลังกา ได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุและหน่อพระศรีมหาโพธิ์ แก่พระครูเขมคุณโสภณ (หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ) เมื่อปี 2547 ส่วนต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้ปลูกไว้ด้านหลังพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ และยังมีเกาะแม่ชี ที่เป็นบำเพ็ญเพียรสำหรับแม่ชี ภายในวัดเกาะแก้วธุดงคสถาน เป็นสถานที่สงบร่มรื่น และมีนกยูงอาศัยอยู่จำนวนมาเหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนที่ต้องการไปกราบไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ทำบุญและปฏิบัติธรรม  

จากที่กล่าวมาข้างต้น พระมหาธาตุรัตนเจดีย์ ศรีบุรีรัมย์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความสวยงาม และมีความสำคัญอย่างยิ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ จากข้อมูลที่ได้ทราบเกี่ยวกับประวัติพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ ศรีบุรีรัมย์ คณะทีมงานได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของข้อมูล และความต้องการ โดยคณะทีมงานอยากส่งเสริมให้มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในชุมชน โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านทางรูปแบบออนไลน์ เช่น การประชาสัมพันธ์ผ่านแฟนเพจ เฟซบุ๊ก บ้านด่าน เซราะแอง ซึ่งในแฟนเพจจะนำเสนอความเป็นวัดระหานในด้านต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ให้มีความน่าสนใจ ซึ่งจะช่วยให้มีการท่องเที่ยวภายในวัดและชุมชนเพิ่มมากขึ้น               

 

              

 

อ้างอิง

คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์. (2553). บุรีรัมย์ ภูมิหลังประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม. สภาวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์

https://previous.thailandtourismdirectory.go.th/th/info/attraction/compare/itemid/2525

อื่นๆ

เมนู