ข้าพเจ้า นางสาวเกษมสรณ์ ยิ้มรัมย์ ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ตำบลโนนขวาง อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ สังกัดคณะพยาบาลศาสตร์ ได้ทำการเก็บข้อมูลมาใช้เป็นฐานข้อมูลในการตำบล ตามโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยสู่ตำบลเพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ
การดำเนินงานของ ข้าพเจ้า นางสาวเกษมสรณ์ ยิ้มรัมย์ ประเภทบัณฑิตจบใหม่ ระหว่างเดือนกันยายน2564 ในเดือนนี้ได้มีการดำเนินงานโดยการลงพื้นที่เพื่อทำโครงการอบรมหนุนเสริมการนำทรัพยากรในชุมชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด(การทำยากำจัดศัตรูพืช/การทำปุ๋ยอินทรีย์) เพราะเกษตรกรและการเกษตรกรรม เป็นอาชีพที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างช้านานจนกลายเป็นรากฐานของสังคมไทย การปลูกพืชพันธุ์ต่าง ๆ เป็นการผลิตของคนส่วนใหญ่ วิถีชีวิตของคนเพาะปลูกและทำอาชีพเกษตรกรจึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญ
เกษตรอินทรีย์
คือการทำการเกษตรด้วยกรรมวิธีทางธรรมชาติ โดยที่พื้นที่ที่ทำเกษตรนั้น ต้องไม่มีสารพิษ หรือสารเคมีตกค้างและหลีกเลี่ยงจากการปนเปื้อนของสารเคมีทั้งทางดิน ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อความสมบูรณ์ทางชีวภาพในระบบนิเวศน์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามสมดุลของธรรมชาติให้มากที่สุด
ทำไมต้องเกษตรอินทรีย์
จากการใช้ทรัพยากรดินทำการเกษตรโดยไม่คำนึงถึงผลเสียของ ปุ๋ยเคมีสังเคราะห์ ก่อให้เกิดความไม่สมดุลในแร่ธาตุและกายภาพของดินตามธรรมชาติ ทำให้สิ่งมีชีวิตที่มีประโยชน์ที่อาศัยอยู่ในดินนั้นสูญหาย และไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งการที่ธรรมชาติขาดสมดุลนี้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ต่อกระบวนการเจริญเติบโตทางธรรมชาติ แต่เมื่อเกิดความไม่สมดุลขึ้นแล้ว จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่ม u2t จึงได้เล็งเห็นถึงปัญหาจึงจัดทำโครงการนี้ขึ้น
จากการอบรมครั้งนี้ทางผู้จ้างงานได้มีวิทยากรมาให้ความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ให้กับชาวบ้านในตำบลโนนขวางและผู้ที่สนใจซึ่งก็ได้รับความ่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก การจัดอบรมในครั้งนี้ ได้มีการสาธิตวิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์ที่ทุกคนในชุมชนสามารถทำได้อย่างง่าย การทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย
ส่วนผสม
- หน่อกล้วย เอาพร้อมราก เง้า ของหน่อกล้วย สูงไม่เกิน 1 เมตร 3 กิโลกรัม
- กากน้้าตาล 1 กิโลกรัม
- น้ำ 5 ลิตร
- นมเปรียวยาคูลท์ ใช้ 1ขวด
วิธีทำ
นำหน่อกล้วยที่ได้มาหั่นเป็นแว่นบางๆ ต้าหรือบดให้ละเอียด จ้านวน 3 กิโลกรัม นำมาคลุกกับกากน้้าตาล จำนวน 1 กิโลกรัม แล้วคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน นำใส่ถัง หมักไว้ 7 วัน คนทุกวันเช้า – เย็น พอถึง 7 วัน นำมาคั้นเอาแต่น้้ามาใช้ ใส่ถังปิดฝาให้สนิท-เก็บได้นาน
ประโยชน์
ใช้ปรับปรังดิน ป้องกันก้าจัดศัตรูพืช, ใช้ในการขยายจุลินทรีย์ต่าง ๆ
ดังนั้นการทำเกษตรอินทรีย์คือการปรับปรุงสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมให้สมบูรณ์ ทำให้ห่วงโซ่อาหารที่ถูกทำลายไปโดยสารเคมีกลับฟื้นคืนดี ทำให้ประชาชนมีอาหารที่เกิดจากธรรมชาติ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด นก ฯลฯ และลดต้นทุนการผลิต ทำให้เกษตรกรได้กำไรมากขึ้น เกษตรกรที่ยากจนสามารถลดรายจ่ายจากการซื้อปุ๋ยเคมีได้