สวัสดีค่ะ ดิฉันนางสาวชลธิชา แฉล้มรัมย์ ผู้รับจ้างจากโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ(มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ประเภท กพร. ในกลุ่มของ  NS05 – ตำบลปราสาท อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์

          ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2564 จัดโครงการอบรมหนุนเสริมการนำทรัพยากรในชุมชนเกิดประโยชน์สูงสุด โดยตัวโครงการเป็นการให้ความมรู้เรื่องการคัดแยกขยะและการกำจัดขยะแต่ละประเภทให้ถูกวิธี  เพราะในปัจจุบันปัญหาขยะ เป็นปัญหาสำคัญระดับประเทศ ซึ่งยากที่จะแก้ไขและสาเหตุหนึ่งเกิดจากประชาชนไม่รู้จักวิธีการบริหารจัดการขยะที่เกิดขึ้น ส่วนมากแล้วจะทิ้งลงข้างทางบ้าง ส่วนอันที่ขายได้อย่างเช่น ขวดพลาสติกขวดแก้วลังหรือกระดาษหนังสือบางบ้านก็จะแยกเก็บไว้ขายบางบ้านก็เผา ส่วนเศษอาหารเศษผักบางบ้านก็จะเก็บไว้ให้สัตว์เลี้ยงบางบ้านที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงก็จะเททิ้งตามโคนต้นไม้ ส่วนขยะอันตราย เช่น ยาฆ่าแมลง ยากำจัดศัตรูพืช สารเคมี ชาวบ้านจะเก็บเอาไว้ที่นาบ้าง บางคนก็เผา บางคนก็ฝั่ง บางคนก็ทิ้งรวมในขยะอื่นๆ   การจัดการขยะมูลฝอยซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ยังใช้วิธีการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการแบบเดิมๆ คือ การฝั่งกลบและเผากลางแจ้ง ซึ่งเป็นวิธีการจัดการขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกวิธี จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปนเปื้อนของมลพิษต่อดิน แหล่งน้ำ ที่สำคัญกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคต่างๆและแหล่งพาหนะนำโรค ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

         ทั้งนี้เราเลยจัดอบรมโครงการหนุนเสริมการนำทรัพยากรในชุมชนเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้ความรู้และสาธิตการทำปุ๋ยอินทรีย์จากการสังเคราะห์แสง การทำปุยชีวภาพจากหน่อกล้วย และการทำปุ๋ยอินทรีย์แบบกลับกรองจากมูลสัตว์ เรามาทำความรู้จักประเภทของขยะก่อนอันดับแรก มีดังต่อไปนี้

1. ขยะอินทรีย์

ขยะอินทรีย์หรือขยะย่อยสลาย เป็นขยะที่สามารถย่อยสลายหรือเน่าเสียได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว เช่น เศษอาหาร เศษผักผลไม้ ต้นหญ้า ใบไม้ และภาชนะที่ย่อยสลายเองได้ โดยเราสามารถนำขยะประเภทนี้ไปทำเป็นน้ำหมักจุลินทรีย์ ปุ๋ยหมักปุ๋ยชีวภาพ และใช้บำรุงดินหรือบำรุงต้นไม้ได้ต่อไป ส่วนถังขยะไว้ทิ้งขยะย่อยสลาย คือ ถังขยะหรือถุงขยะสีเขียว ที่มีสัญลักษณ์สามเหลี่ยม มีรูปก้างปลาและเศษอาหารตรงกลาง 

2. ขยะรีไซเคิล

          ขยะรีไซเคิล เป็นขยะที่สามารถนำมาแปรรูป แล้วนำไปใช้ประโยชน์ใหม่ได้อีกครั้ง ส่วนมากจะเป็นสิ่งของเหลือใช้ หรือภาชนะบรรจุของ เช่น แก้ว กระดาษ พลาสติก กระป๋อง กล่อง ลัง โลหะ อะลูมิเนียม และยางรถยนต์ โดยเราสามารถนำขยะเหล่านี้ไปขายเป็นของเก่า ไปประยุกต์เป็นของใช้ที่มีประโยชน์ หรือไม่ก็ส่งต่อให้กับโครงการรีไซเคิลต่าง ได้ ส่วนถังขยะที่รองรับขยะรีไซเคิล คือ ถังขยะหรือถุงขยะสีเหลือง ที่มีสัญลักษณ์ลูกศรหมุนวนกันเป็นทรงสามเหลี่ยม

3. ขยะอันตราย

          ขยะอันตรายหรือขยะพิษ เป็นขยะที่มีวัตถุอันตรายปนเปื้อนหรือประกอบอยู่ เช่น หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย แบตเตอรี่โทรศัพท์ กระป๋องสเปรย์ และภาชนะบรรจุสารเคมีอันตราย ซึ่งเราสามารถสังเกตได้ไม่ยากจากสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายเตือนที่มักจะติดอยู่บนฉลากว่า สารมีพิษ สารไวไฟ สารกัดกร่อน อันตราย คำเตือน ข้อควรระวัง ห้ามรับประทาน และห้ามเผาโดยเราสามารถนำขยะประเภทนี้ไปกำจัดอย่างถูกต้องและปลอดภัยได้ ถ้าหากมีการเก็บแยกอย่างเหมาะสม อีกทั้งยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้ด้วย ส่วนถังขยะที่รองรับขยะอันตราย คือ ถังขยะหรือถุงขยะสีส้ม ที่มีสัญลักษณ์วงกลม พร้อมรูปลูกศรสีขาวชี้ลง และหัวกะโหลกกับกากบาทด้านใน

4. ขยะทั่วไป

          ขยะทั่วไป เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยาก ไม่เหมาะจะนำไปรีไซเคิล แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตรายเกินไป จึงเรียกง่าย ว่า ขยะทั่วไป คือ ขยะทั้งหมดที่อยู่นอกเหนือจากขยะย่อยสลาย ขยะรีไซเคิล และขยะอันตรายนั่นเอง เช่น โฟม ฟอยล์ ถุงพลาสติกซองอาหาร กระป๋องสี และแผ่นซีดี ซึ่งจำเป็นต้องแยกก่อนทิ้ง เพื่อจะได้นำไปกำจัดอย่างถูกต้อง ส่วนถังขยะที่รองรับขยะทั่วไปคือ ถังขยะหรือถุงขยะสีน้ำเงิน ที่มีสัญลักษณ์รูปคนกำลังทิ้งขยะลงในถัง

จากนี้เรามารู้จักการแยกขยะในบ้านกันเถอะค่ะ ขั้นตอนการคัดแยกขยะในบ้าน มีดังต่อไปนี้

          1. แยกขยะทั้ง 4 ประเภทออกจากกัน โดยมีรายละเอียด คือ

          – ขยะย่อยสลาย : ให้แยกระหว่างเศษอาหารกับเศษใบไม้ เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ที่แตกต่าง โดยควรจัดเก็บในภาชนะที่สามารถปิดได้

          – ขยะรีไซเคิล : ให้แยกขยะรีไซเคิลแต่ละชนิดออกจากกัน เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้ และความง่ายในการนำไปขาย โดยขยะรีไซเคิลมีทั้งหมด 4 ชนิดหลัก ได้แก่

          • กระดาษ : ควรแยกหนังสือพิมพ์ สมุด หนังสือ กล่อง ลัง และเศษกระดาษออกจากกัน แล้วมัดแต่ละชนิดไว้ให้เรียบร้อย

          • แก้ว : กำจัดผลิตภัณฑ์ที่อยู่ข้างในออกให้หมด จากนั้นทำความสะอาดให้เอี่ยม แล้วเก็บรวมกันไว้ได้เลย

          • พลาสติก : กำจัดผลิตภัณฑ์ที่อยู่ข้างในออกให้หมด จากนั้นทำความสะอาดให้เอี่ยม แล้วทำให้แบนเพื่อเซฟพื้นที่สุดท้ายก็เก็บโดยแยกระหว่างพลาสติกขุ่นและพลาสติกใส

          • โลหะหรืออโลหะ : กำจัดผลิตภัณฑ์ที่อยู่ข้างในออกให้หมด จากนั้นทำความสะอาดให้เอี่ยม แล้วทำให้แบนเพื่อเซฟพื้นที่ สุดท้ายก็เก็บรวมกันไว้ได้เลย

          – ขยะอันตราย : ให้แยกขยะอันตรายออกจากขยะประเภทอื่น แล้วก็แยกชนิดของขยะอันตรายอีกทีด้วย อย่าเก็บปนกันเด็ดขาด นอกจากนี้ควรใส่ไว้ในภาชนะที่แข็งแรง มิดชิด และไม่รั่วไหลด้วย

          – ขยะทั่วไป : เก็บรวมกันไว้ได้เลย

          2. นำขยะประเภทต่าง เก็บไว้ในถุงขยะหรือถังขยะที่แยกตามสีที่กำหนดอย่างเหมาะสม

          3. เก็บถุงขยะหรือถังขยะทั้งหมดไว้ในบริเวณที่สะอาด สว่าง อากาศถ่ายเท ไม่ขวางทางเดิน และไม่ใกล้แหล่งอาหาร

          4. แยกขยะอันตรายออกห่างจากขยะประเภทอื่น และควรดูแลการขนย้ายขยะประเภทนี้มากเป็นพิเศษ หรือทางที่ดีจะนำไปทิ้งในสถานที่ที่รับเก็บขยะอันตรายโดยเฉพาะก็ได้

          5. อย่าเก็บขยะที่เสี่ยงเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ หรือเสี่ยงเกิดการรั่วไหลเอาไว้ใกล้ตัวเป็นเวลานาน

          6. ในกรณีที่ล้างทำความสะอาดขยะประเภทต่าง แล้วมีไขมันหรือน้ำมันปนเปื้อน ควรกรองเศษตะกอนต่าง เพื่อไม่ให้ไหลลงไปอุดตันในท่อระบายน้ำสาธารณะ

          7. หลีกเลี่ยงการเผาทำลายขยะโดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม

วิธีลดขยะในบ้าน

          เราทุกคนสามารถลดปริมาณขยะในบ้านได้ง่าย ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชีวิตให้สอดคล้องตามหลัก 5R ซึ่งประกอบไปด้วย

          R1 : Reduce

          Reduce คือ การคิดก่อนใช้หรือการลดปริมาณขยะที่กำลังจะเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น การใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก การใช้กล่องข้าวแทนกล่องโฟม การใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดโต๊ะแทนกระดาษทิชชู การกินอาหารที่ร้านแทนการห่อกลับ รวมถึงการหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ครั้งเดียว เช่น จานกระดาษ แก้วพลาสติก การหลีกเลี่ยงสารเคมีที่จะก่อให้เกิดขยะอันตราย การเลือกสินค้าที่บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การไม่รับถุงเมื่อซื้อของเพียงไม่กี่ชิ้น และการใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดเติมแทนการซื้อใหม่ด้วย

          R2 : Reuse

          Reuse คือ การนำของที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำให้คุ้มค่า ตัวอย่างเช่น การนำถุงพลาสติกไปใส่ขยะ การนำขวดพลาสติกไปทำเป็นแจกัน การนำขวดแก้วเก่าไปใส่ของอยางอื่น การนำเศษผ้ามาเย็บรวมกันเป็นชิ้น การใช้กระดาษให้ครบทั้งสองหน้าการใช้ภาชนะที่สามารถใช้ซ้ำได้ การใช้ถ่านที่สามารถชาร์จได้ รวมถึงการใช้ของมือสองด้วย

          R3 : Repair

          Repair คือ การซ่อมของที่พังแล้วให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง แทนที่จะทิ้งเป็นขยะอย่างเปล่าประโยชน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรทัศน์ พัดลมต่าง หรือไม่เช่นนั้น พวกเฟอร์นิเจอร์ที่ชำรุด ทรุดโทรม ก็สามารถตกแต่งใหม่ และนำกลับมาใช้ได้อีกครั้งเหมือนกัน

          R4 : Recycle

          Recycle คือ การแปรรูปสิ่งของต่าง ให้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ได้อย่างสร้างสรรค์ โดยหลักการง่าย ให้เราเลือกใช้แต่ผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ เช่น แก้ว กระดาษ พลาสติก โลหะ และอะลูมิเนียม จากนั้นเวลาเก็บทิ้งก็คัดแยกออกต่างหาก แล้วนำไปขายหรือบริจาค เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลต่อไป

          R5 : Reject

          Reject คือ การงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายยาก ทำลายยาก นำไปรีไซเคิลยาก หรือพวกผลิตภัณฑ์ใช้ได้แค่ครั้งเดียวเช่น โฟม แก้วพลาสติก แก้วกระดาษ เป็นต้น

ในการจัดโครงการอบรมหนุนเสริมการนำทรัพยากรในชุมชนเกิดประโยชน์สูงสุด คณะทีมงานได้มีการสำรวจติดตามผลของผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ว่ามีความคืบหน้าอย่างไรทั้งนี้ยังมีชุมนุมส่วนน้อยที่ทำการแยกขยะอย่างถูกวิธี หรือท่านต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม พวกเราพร้อมให้คำปรึกษา เพื่อให้ชุมนุมตำบลปราสาท เป็นชุมนุมที่สามารถลดแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคต่างๆและลดพาหนะนำโรคเพื่อสุขภาวะที่ดีได้

วิธีทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

  1. ตอกไข่ใส่ถ้วยแล้วเติมน้ำปลาลง 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน
  2. นำน้ำใส่ขวดขนาด 1.5 ลิตร (แหล่งน้ำจากที่ใดก็ได้แนะนำให้นำมาจากหลายๆที่) นำไปตากแดดประมาณ 4-5 วัน ก่อนเติมไข่ไก่ที่เตรียมไว้ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ
  3. นำไปตั้งไว้ในบริเวณกลางแจ้งที่มีแดดส่งถึงทุกวัน

ส่วนผสมและอุปกรณ์

  1. หน่อกล้วยเอาพร้อมรากเจ้าของหน่อกล้วยสูงไม่เกิน          1 เมตร 3 กิโลกรัม
  2. กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม
  3. มีดอีโต้ 1ด้าม
  4. เขียง 1อัน
  5. ถังหมักพร้อมฝา ประมาณ 10ลิตร 1ถัง
  6. ถุงพลาสติกและยางไว้รัด อย่างละ1 อัน

วิธีทำ

  1. ขุดหน่อกล้วยขุดเอาทั้งรากให้ได้ดินติดมาด้วยน้ามาสับเป็นชิ้นเล็ก ให้ได้ 3 กิโลกรัม

2. น้ำกากน้ำตาล 1 กิโลกรัม ลงไปคลุกเคล้ากับหน่อกล้วยเติมน้ำ 5 ลิตร และสารเร่ง พด.2 (ถ้ามี) คนให้เข้ากันนำไปเทลงถังที่เตรียมไว้

3. จากนั้นใช้ถุงพลาสติกครอบไว้ใช้หนังยางรัดและปิดฝาภาชนะให้สนิท ทิ้งไว้ในที่ร่ม 5 – 10 วันก็น้าไปใช้ได้

วิธีใช้      ใช้ 2 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 20 ลิตรอาทิตย์ละครั้ง

ประโยชน์   ใช้ปรับปรุงดินป้องกันกำจัดศัตรูพืช, ใช้ในการขยายจุลินทรีย์ต่าง จุลินทรีย์

 

 

 

 

 

 

 

อื่นๆ

เมนู