ดิฉันนางสาวสุชาวดี ศรีนาเมือง ตำแหน่ง กพร(เนื่องจากยังไม่มีรายชื่อลงปฏิบัติงานสำนักงานใดจึงลงพื้นที่ปฏิบัติงานกับกลุ่มที่ได้รับมอบหมาย)ในเดือนตุลาคมนี้ ดิฉันได้ดำเนินการทำหนังสือ ในการจัดทำโครงการ เพื่อเรียนรู้งานด้านเอกสาร และเป็นหน้าที่รับผิดชอบประจำ

ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ดิฉันได้ร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ  วัดทองธรรมชาติ ตำบลปราสาท อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เห็นความร่วมมือร่วมใจในการสืบสารวัฒนธรรม

และได้ร่วมปรึกษาหารือ แสดงความคิดเห็นในการจัดโครงการในเดือนถัดไปโดยมีท่านอาจารย์ที่ปรึกษาให้คำแนะนำและท่านนายอำเภอร่วมแวะทักทายและสอบถามเกี่ยวกับวัตถุโครงการในเดือนถัดไป

งานที่รับมอบหมายคือการลงพื้นที่สำรวจความต้องการด้านสัมมาชีพเกี่ยวกับการเลี้ยงกุ้งฝอย

จากการที่กลุ่มผู็ปฏิบัติงานในโครงการครั้งก่อน เป็นโครงการสำรวจการเลี้ยงปลาดุกมีชาวบ้านให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะชาวบ้านในชุมชน พร้อมรับความรู้ใหม่ๆ กลยุทธ์ต่างๆที่ผู้ปฏิบัติงานตะเตรียมไว้ให้ เพื่อเสริมสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว เช่นเดียวกับการเลี้ยงกุ้งฝอยชาวบ้านก็ให้ความสนใจมากเช่นกัน

การเพาะเลี้ยงกุ้งฝอยในกระชัง

เกษตรกรสามารถเพาะเลี้ยงกุ้งฝอยได้ทั้งในแบบบ่อดินและบ่อซีเมนต์ แต่ส่วนใหญ่จะเลือกเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ที่สะดวกและดูแลได้ง่ายกว่า ซึ่งวิธีการก็เริ่มต้นจากการรวบรวมกุ้งเพศเมียจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จำนวนประมาณ 80-100 ตัว

นำมาพักไว้ในกระชังอย่างน้อย 1 คืน คัดเลือกเฉพาะกุ้งเพศเมียที่มีไข่แก่ มองเห็นตาของลูกกุ้งในท้อง เพาะฟักในตะแกรงที่แขวนไว้ในกระชังผ้า ขนาด 1x1x1 เมตร ในบ่อซีเมนต์หรือบ่อดินให้อาหารสำเร็จรูปที่มีโปรตีน 33%

ให้อาหารประมาณ 5% ของน้ำหนักตัว แบ่งให้ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ประมาณ 3-4 วัน ไข่จะฟักออกมาเป็นตัว แยกแม่กุ้งออกจากกระชัง แล้วคัดลูกกุ้งที่มีขนาดเดียวกัน เพื่อสะดวกในการจัดการเพาะเลี้ยง นำลูกกุ้งที่ได้ไปอนุบาลในกระชังผ้าโอล่อนแก้ว ปริมาณ 50,000 ตัว ในบ่อขนาด 1x1x1 เมตร สัปดาห์แรก ให้ไข่แดงต้มสุกเป็นอาหาร สัปดาห์ที่ 2-4 ใช้ไรน้ำจืดขนาดเล็กเป็นอาหาร

จากนั้นจึงให้อาหารสำเร็จรูปชนิดผง เป็นอาหารที่มีโปรตีน 40% ให้อาหารในปริมาณ 10% ของน้ำหนักตัว ระยะนี้ต้องระมัดระวังตาข่ายไม่ให้อุดตัน ควรใช้แปรงขนาดเล็กขนอ่อนทำความสะอาดบ่อยครั้ง ใช้เวลาอนุบาลเป็นเวลา 1 เดือน จึงนำไปเลี้ยงในกระชังหรือบ่อซีเมนต์ได้

การเตรียมบ่อ

ทำความสะอาดบ่อด้วยปูนขาว ตากทิ้งไว้ 2-3 สัปดาห์ กั้นคอกล้อมบ่อด้วยอวนพลาสติกสีฟ้าเพื่อป้องกันศัตรู เติมน้ำในบ่อโดยผ่านการกรองด้วยผ้าตาถี่ เพื่อป้องกันไข่ปลาและลูกปลาขนาดเล็กๆ เล็ดลอดลงในบ่อกุ้ง เติมน้ำสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยขี้ไก่ อัตรา 60-120 กิโลกรัม ต่อไร่ ทิ้งไว้ 3-4 วัน รอจนน้ำเริ่มสีเขียว จึงเติมน้ำจนได้ระดับ 1 เมตร

 

จากนั้นจึงนำลูกกุ้งที่อนุบาลมาแล้วประมาณ 1 เดือน ปล่อยลงในบ่อ อัตรา 30,000-50,000 ตัว เลี้ยงประมาณ 2 เดือน ก็สามารถจับขายได้ มีอัตรารอด 80% ที่สำคัญการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ควรช่วยการหายใจด้วยระบบการเติมออกซิเจนด้วยวิธีการเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อพลาสติก

อาหารของกุ้งฝอย

1.ต้มไข่ให้สุก เอาเฉพาะไข่แดง 2 ฟอง

2.รำอ่อน 3 ขีด ผสมให้เข้ากัน ปั้นเท่ากำปั้น โยนลงไปในบ่อประมาณ 3 ก้อน

หลังจากให้อาหารประมาณ 1 เดือน กุ้งจะวางไข่ ให้สังเกตตอนกลางคืนโดยการนำไฟฉายมาส่องดุว่ากุ้งจะวางไข่หรือไม่

เทคนิคการเร่งกุ้งให้วางไข่ ให้นำสายยางน้ำประปามาเปิดลงในบ่อ โดยการเปิดแรงๆ ประมาณ 10-20 นาที เพราะกุ้งชอบเล่นน้ำไหล แล้วจะดีดตัวทำให้ไข่ตกลงมา (ธรรมชาติน้ำนิ่งกุ้งไม่วางไข่) ประมาณ 1-2 เดือน กุ้งก็จะโตเต็มที่ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 เดือน จะได้กุ้งประมาณ 20-30 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 100-200 บาท

ราคาและระยะเวลาในการจับจำหน่าย

ระยะเวลาในการจับกุ้งฝอยเพื่อจำหน่าย ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนก็สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้ ทั้งนี้

หากเป็นการเลี้ยงในบ่อดินหรือตามสวนต่างๆจะสามารถให้จำนวนการขยายพันธุ์ได้มากกว่าการเลี้ยงในบ่อปูนเพราะมีพื้นที่มากกว่า

โดยอาหารกุ้งฝอยที่เลี้ยงในบ่อดิน สามารถให้ได้แบบเดียวกันกับการเลี้ยงในบ่อปูน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำหรับคนที่มีที่ดินว่างๆ อาจจะลองหันมาเลี้ยงกุ้งฝอยสร้างรายได้ดูบ้างก็ได้

อย่างไรก็ดีแม้จะเป็นอาชีพที่ดีแต่เกษตรกรก็ควรศึกษาวิธีการเลี้ยงให้เข้าใจและเริ่มเลี้ยงแบบหาประสบการณ์

จาก น้อยไปหามาก เพื่อดูว่าอัตราการรอดเป็นอย่างไร ระหว่างเลี้ยงมีปัญหาอะไรให้ต้องแก้ไข แม้ว่ากุ้งฝอยจะเลี้ยงไม่ยากแต่หากไม่เข้าใจในวิธีการเลี้ยงก็อาจทำให้เป็นการลงทุนที่เสียเวลาโดยประโยชน์ได้

อื่นๆ

เมนู