ดิฉันนางสาวสุชาวดี ศรีนาเมือง ตำแหน่ง กพร(เนื่องจากยังไม่มีรายชื่อลงปฏิบัติงานสำนักงานใดจึงลงพื้นที่ปฏิบัติงานกับกลุ่มที่ได้รับมอบหมาย)
คณะผู้ปฎิบัติงานได้ปรึกษาหารือแผนการปฏิบัติงานในเดือน สิงหาคม และเดือน กันยายน ซึ่งได้เล็งเห็นว่าปัญหาขาดแคลนน้ำในชุมชน และแหล่งน้ำไม่พอใช้สอย เป็นเรื่องสำคัญมากในชุมชน อีกทัั้งยังประสบปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่องจากเป็นเดือนแห่งฤดูฝน ทางทีมผู้ปฎิบัติงานและทีมคณะอาจารย์จึงร่วมกันกันปรึกษา ค้นหาวืธิแก้ปัญหา และได้แนวคิดการทำธนาคารใต้น้ำ จากท่านผู้มีความรู้ และลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ในวันที่ 28 สิงหาคม 2564 ณ บ้านเลขที่ 239 หมู่ 6 บ้านโคกเมือง ตำบลจระเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับธนาคารน้ำใต้ดินแบบระบบปิด นำความรู้ที่ได้มาใช้ร่วมกับโครงการที่จะจัดขึ้น
ในวันจัดโครงการ วันที่ 4-5 กันยายน 2564 ดิฉันรับหน้าที่พิธีกรในการจัดโครงการ ธนาคารน้ำใต้ดินในครั้งนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก ท่านนายอำเภอบ้านด่าน ผู้มีความรู้ทางวิชาการ ผู้นำชุมชน ตลอดจนไถึงชาวบ้านต.ปราสาท ที่ให้ความร่วมมือ และสนใจโครงการนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นโครงการที่จัดสรรขึ้น เป็นประโยชน์และตอบโจทย์ปัญหาที่กำลังพบอยู่ที่สุด
ขั้นตอน และ ประโยชน์ของการทำธนาคารน้ำใต้ดินมีดังนี้
ธนาคารน้ำใต้ดินคืออะไร?
ธนาคารน้ำใต้ดินจะมี 2 ประเภท คือธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบปิด และธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบเปิดถ้าทำธนาคารน้ำใต้ดินทั้ง 2 ประเภท
ควบคู่ไปด้วยกันจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ใช้หลักการขุดบ่อเพื่อส่งน้ำไปเก็บไว้ที่ชั้นน้ำบาดาล ขนาดและความลึกของบ่อขึ้นอยู่กับสภาพ และชั้นดินของแต่ละพื้นที่ โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ขุดบ่อให้ลึกถึงชั้นหินอุ้มน้ำ จากนั้นใส่ยางรถยนต์เพื่อป้องกันขอบบ่อพังทลาย
- จากนั้นใส่วัสดุที่หาได้ในพื้นที่ เช่นขวดน้ำ (ใส่น้ำ 1 ใน 3 ส่วน), ท่อนไม้ หรือเศษปูนให้เต็มช่องว่างด้านนอกยางรถยนต์
- นำท่อ PVC มาวางตรงกลางบ่อเพื่อเป็นช่องระบายอากาศ นำวัสดุชนิดเดียวกับที่ใส่ช่องว่างด้านนอกมาเติมใส่ช่องว่างด้านในให้เต็ม
- คลุมด้วยผ้าไนล่อน แล้วทับด้วยก้อนหิน และตามด้วยหินละเอียดอีกที เพื่อเป็นตัวกรองให้เศษดิน หรือขยะไม่ให้เข้าไปอุดตันในบ่อ เมื่อฝนตกลงมาน้ำจะไหลสู่ชั้นใต้ดินโดยตรง ผ่านธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบปิดที่ทำขึ้นมา
ธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบเปิด
เป็นการเปิดผิวดินเพื่อที่จะสามารถใช้น้ำในระดับผิวดินได้เลย โดยจะมีการขุดบ่อขนาดใหญ่ แต่ขนาดเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่
และความต้องการ โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เจาะพื้นบ่อเป็นหลุม 3 หลุมให้ลึกถึงชั้นหินอุ้มน้ำ เพื่อให้น้ำไหลลงชั้นหินอุ้มน้ำได้ดี และมีช่องสำหรับถ่ายเทอากาศจากโพรงใต้ดินเมื่อถูกน้ำเข้าไปแทนที่
- โดยน้ำที่นำมาเก็บนั้นมาจากหลายแหล่งด้วยกัน เช่น น้ำฝน หรือน้ำจากการทำธนาคารน้ำใต้ดิน ระบบปิด ซึ่งเมื่อน้ำถูกเติมลงชั้นใต้หินอุ้มน้ำปริมาณมากพอ น้ำจะเอ่อล้นมาที่บ่อโดยอัตโนมัติ ซึ่งเกษตรกรสามารถสูบน้ำจากบ่อนี้มาใช้ได้ทันที วิธีนี้จะช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องขุดเจาะหาแหล่งน้ำ หรือสูบน้ำจากแหล่งน้ำไกลๆ ประหยัดพลังงาน แถมช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ปีละหลายล้านบาทเลยทีเดียว
ประโยชน์ของธนาคารน้ำใต้ดิน
1. ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ เพราะช่วยให้น้ำซึมลงใต้ดินได้ดีขึ้น
2. ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง เพราะสามารถสูบน้ำจากธนาคารน้ำใต้ดินใช้ได้ตลอดเวลา
3. แก้ปัญหาน้ำเค็ม เพราะมวลน้ำเค็มจะมีน้ำหนักมากกว่าน้ำจืด ฉะนั้นน้ำเค็มจะอยู่ด้านล่าง
4. แก้ปัญหาน้ำสกปรก เพราะระบบน้ำแบบปิดจะช่วยกรองน้ำให้สะอาดขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : รู้ค่าพลังงาน WATCHDOG | ธนาคารน้ำแบบปิด และ ธนาคารน้ำแบบเปิด
นอกจากนี้ทางผู้ปฎิบัติงานยังสร้าง บ่อตรามจุดต่างๆ รอบหมู่บ้านเพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้จริง และติดตามผลให้คำปรึกษาอย่างเคร่งครัด