ข้าพเจ้า นางสาว อามินา หอมเนียม ประเภทประชาชน ในโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมแบบบูรณาการ ตำบลปราสาท อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์

จากการได้ลงพื้นที่สำรวจ หมู่7 บ้านขาม ตำบลปราสาท อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าคนในชุมชนหลายหลังคาเรือนได้ยึดการเลี้ยงหม่อน เลี้ยงไหม ทอผ้า หารายได้และเป็นอาชีพเสริมในครอบครัว ซึ่งอาชีพหลักคนในชุมชนก็จะยึดการปลูกข้าว ทำเกษตร เช่น ปลูกอ้อย ปลูกมัน หลังจากฤดูเก็บเกี่ยวก็จะมีเวลาว่าง มาทำอาชีพเสริม ซึ่งคนในชุมชนส่วนใหญ่ เลือกการเลี้ยงหม่อนไหม ทอผ้า เป็นหลัก เพราะคนในชุมชนก็ยังมีการใช้สอยจากผ้าไหมอยู่เป็นประจำ เช่นการนุ่งใส่ในชีวิตประจำวันหรือการใส่ไปทำบุญที่วัดในวันพระ หรือวันสำคัญทางศาสนา และการใช้ในงานแต่ง เป็นเครื่องไหว้ ให้กับผู้ใหญ่ทางเจ้าบ่าว ร่วมไปถึงการแต่งตัวของเจ้าสาวหรือเพื่อนเจ้าสาวอีกด้วย ในงานบวชก็เช่นกัน มีการนุ่งผ้าไหมให้กับนาคตามประเพณีพื้นบ้าน และเป็นอีกวิถีหนึ่งของชาวบ้านที่ทำตามกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มีความถนัด ทางด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลุ่มแม่บ้าน สิ่งที่ทำรายได้ให้กับคนในชุมชนที่เลี้ยงหม่อนไหม ทอผ้า หลักๆก็จะมี

1)การขายพันธุ์ไหม คือ การขายรังไหมที่จะเอาไปทำพันธุ์ต่อ ซึ่งในภาษาชาวบ้านจะเรียกว่า(โผลน) 1โผลน จะมีรังไหมอยู่ประมาณ30-40เม็ด ต่อราคา15-20บาท

2)ขายดักแด้ สามารถขายได้เมื่อมีการสาวไหมหรือ(สาวลอก) โดยจะขายเป็นกิโลกรัม กิโลกรัมละ100-120บาท

3)การขายไหมหัว ไหมกลาง ไหมน้อย ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไป โดยที่นิยมขายกันมากที่สุดคือไหมน้อย ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ2,500-3,000บาท

4)การขายผ้าไหมทอมือ ผ้าไหมแท้ๆ ซึ่งก็จะมีราคาสูงตามความยาก ง่าย ของลายผ้านั้นๆ ราคาจะอยู่ประมาณผืนละ2,000-2,500บาท

ปัญหาที่พบในกลุ่มคนทำอาชีพเสริมในการเลี้ยงหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้า คือ

1)การที่ตัวไหมเป็นขมิ้น คือตัวไหมจะมีสีเหลืองและเน่าตาย หรือบางตัวอาจไม่ตายแต่ไม่สามรถผลิตรังไหมตามที่เราต้องการได้

2)ไม่มีตลาดรองรับ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะขายกันเอง หรือขายให่กับชุมชนใกล้เคียงที่รู้จักกันเท่านั้น

อื่นๆ

เมนู