ข้าพเจ้านางสาวสุภาพร พาลพล ประเภทนักศึกษา ทีมปฏิบัติงานตำบลปราสาท อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์

ในปัจจุบันชาวบ้านเข้ารับการรักษาอาการเจ็บป่วยกับแพทย์แผนปัจจุบันเป็นจำนวนมาก เช่น สถานีอนามัยใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลประจำอำเภอ แต่มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่จะเข้ารับการรักษาความเจ็บป่วยจากคนในหมู่บ้านที่เชื่อว่เป็นปราชญ์ชาวบ้านควบคู่กับการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันไปด้วย จากการบอกเล่าของชาวบ้านทำให้ผู้ปฏิบัติงานสนใจในการหาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษากับปราชญ์ชาวบ้าน ในครั้งนี้ได้ไปขอข้อมูลเกี่ยวกับการรักษากับนายทั่ง ฉิวรัมย์ ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการเป่ารักษาอาการกระดูกหัก กระดูกร้าว

นายทั่ง ฉิวรัมย์ อายุ 74 ปี อาศัยอยู่บ้านกะชายสามัคคี หมู่ 18 ตำบลปราสาท อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นปราชญ์ด้านการเป่ารักษาอาการกระดูกหัก กระดูกร้าว  นายทั่ง เป็นที่รู้จักดีของชาวบ้านอย่างดีด้านการเป่ารักษากระดูกหัก กระดูกร้าว ซึ่งรักษามาแล้วเกือบ 40 ปี โดยนายทั่งเล่าว่า เริ่มจากตั้งแต่ลูกตนยังเล็กๆอยู่ ได้เล่นซนปีนต้นไม้จนตกลงมาแขนหัก และเนื่องจากสมัยก่อนการเข้าถึงการรักษากับหมอยาก จึงพาลูกสาวไปรักษากับคนในหมู่บ้านด้วยการเป่า และก็รักษาจนอาการของลูกสาวหายดี ทำให้นายทั่ง เชื่อและสนใจที่จะเรียนการเป่ารักษา จึงขอเรียนกับหมอเป่าคนนั้นเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว และทำการรักษาตลอดจนปัจจุบัน ซึ่งการรักษาจะต้องนำขัน 5 และเงิน 10 บาท มาขึ้นครูขอให้รักษา ซึ่งการรักษากระดูกหัก จะเป่า 3 วันแรกติด และหลังจากนั้นจะเป่าวันเว้นวัน ประมาณ 1-2อาทิตย์ อาการก็จะหายดี และจะมีน้ำมันงาให้ไปทาด้วย  นายทั่งกล่าวว่าการรักษาร่วมกับแพทย์ปัจจุบันจะทำให้อาการหายดีขึ้น  และหลังจากหายก็จะมีการมายกครู

นอกจากนายทั่ง จะเป็นปราชญ์ด้านการเป่ารักษา ยังเป็นปราชญ์ด้านจักสานอีกด้วย โดยจักสานเกี่ยวกับตะกร้า ไซใส่ปลา และของใช้ในครัวเรือน โดยจะมีคนในหมู่บ้านมาหาซื้อไปใช้ และคนนอกพื้นที่มารับซื้อแล้วไปขายต่อบ้าง ซึ่งการจักสานก็ไม่ได้เรียนจากที่ไหน อาศัยการดูและลองมาหัดทำเอง ตอนแรกก็สานใช้เองเป็นส่วนมาก แต่เนื่องจากปัจจุบันไม่ค่อยมีใครจักสานข้าวของเครื่องใช้จากไม้ไผ่แล้ว จึงทำให้คนมาขอซื้อเป็นจำนวนมาก

สุดท้ายนายทั่งกล่าวว่า การรักษากระดูกหักด้วยการเป่าแบบโบราณสักวันจะต้องหายไปพร้อมกับตน เมื่อตนตายไป เพราะไม่ใช่ว่าใครจะมาขอเรียนแล้วจะสอนได้เลย  เพราะการที่จะให้ใครมาสืบทอดต่อต้องมีความเชื่อหรือเหตุการณ์ที่บ่งบอกว่าคนนี้แหละจะเป็นคนสืบวิชานี้ต่อไป แต่จนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นใครเลยที่เป็นคนนั้นเลย ไม่ใช่เพราะตนหวงวิชาแต่อย่างไร เเต่เป็นเพราะความเชื่อล้วนๆ ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนของเรียนกับตน แต่ตนก็ไม่สามารถสอนเขาคนนั้นไปได้

 

อื่นๆ

เมนู