ในการปฏิบัติหน้าที่ประจำเดือนพฤษภาคม จะเป็นการปฏิบัติงานโดยให้คำแนะนำและให้คำปรึกษาในกระบวนการย้อมสีผ้าไหมโดยการใช้กระบวนการย้อมผ้าไหมแบบวิถีดั่งเดิมนั้นก็คือการย้อมโดยกระบวนการย้อมสีธรรมชาติแก่กลุ่มผ้าไหมตำบลสนวน ในลำดับแรกได้ส่งตัวแทนผู้ปฏิบัติลงสำรวจเพื่อว่างแนวทางการปฏิบัติงานจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ลำดับถัดไปจัดประชุมผู้ปฏิบัติงานวางแผนการปฏิบัติงานโดยแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่มการปฏิบัติงาน

 

            โดยในลำดับก่อนการจะเริ่มกระบวนการย้อมไหนนั้นจะต้องทำการ “ฟอกขาวไหม” ก่อนในขั้นตอนแรกโดยการต้อมน้ำสะอาดให้เดือดในอุณภูมิประมาณ 80-90 องศาเซสเซียส นานประมาณ 20-30 นาที ถัดจากนั้นจึงใส่โซเดียมซิลิเกดและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์คนให้ละลายโดยทั่วกัน จากนั้นจึงนำเส้นไหมลงต้ม แล้วจึงนำมาล้างน้ำเย็นและบีบสลัดน้ำออกก่อนจะนำมาผึ่งในร่มให้แห้ง

 

 

            ในกระบวนย้อมเส้นไหมขั้นตอนแรกนำเส้นไหมแช่น้ำอุ่นประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงบิดน้ำให้หมาด ลำดับถัดไปนำสีที่ผ่านการสกัดธรมชาติในที่นี้ผู้ปฏิบัติงานใช้สีที่ผ่านการสกัดจากเปลือกต้นมะพูด (ในภาษาเขมรท้องถิ่นเรียกว่า ขะโมด) มาตั้งไฟจากนั้นใส่เกลือแกงแล้วคนให้ละลายต้มจนอุณภูมิเดือดประมาณ 70 องศาเซสเซียสจึงนำเส้นไหมลงย้อมนาน 40 นาทีในระหว่างนั้นหมุนกลับเส้นไหมไปมาทุกๆ 5 นาที จากนั้นนำเส้นไหมออกเติมน้ำอีก 2 ลิตร ใส่กรดน้ำส้มแล้วคนให้เข้ากัน นำเส้นไหมลงไปย้อมอีกครั้ง ประมาณ 20 นาที หมุนกลับเส้นไหมทุกๆ 5 นาที เสร็จจากนั้นนำเส้นไหมมาล้างน้ำสะอาดทั้งหมด 3 ครั้ง บิดให้หมาดและกระตุกให้เส้นไหมคลายตัวผึ่งในที่ร่มให้แห้ง เป็นอันเสร็จกระบวนการฟอกย้อมเส้นไหม

 

            โดยสรุป กระบวนการฟอกย้อมเส้นไหมเป็นกระบวนการดั่งเดิมในการย้อมไหมโดยใช้สจากธรรมชาติกระบวนการย้อมจึงไม่ทิ้งกากสารเคมีให้เป็นมลผิดต่อสิ่งแวดล้อม ในอีกทางหนึ่งจะเป็นการอนุรักษ์วิถีโบราณของชุมชนให้คงอยู่ต่อไปพร้อมทั้งสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเครือข่ายของชุมชน

 

 

 

 

อื่นๆ

เมนู