ศรีแพร สวัสดิ์รัมย์
การจักสานเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนที่สำคัญยิ่งต่อการดำรงชีวิตตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน การจักสานเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นภูมิปัญญาอันเฉลียวฉลาดของคนในท้องถิ่น ที่ใช้ ภูมิปัญญาสามารถนำสิ่งที่มีอยู่ในชุมชนมาประยุกต์ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีประโยชน์ในการดำรงชีวิต การจักสานมีมานานแล้วและได้มีการพัฒนามาตลอดเวลาโดยอาศัยการ ถ่ายทอดความรู้จากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง การดำรงชีวิตประจำวันของชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ เอาการรู้หนังสือมาเกี่ยวข้อง การเรียนรู้ต่างๆ อาศัยวิธีการฝึกหัดและบอกเล่าซึ่งไม่เป็นระบบในการ บันทึก สะท้อนให้เห็นการเรียนรู้ความรู้ที่สะสมที่สืบทอดกันมาจากอดีตมาถึงปัจจุบันหรือที่เรียกกัน ว่าภูมิปัญญาท้องถิ่น ดังนั้นกระบวนถ่ายทอดความรู้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทำภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้น คงอยู่ต่อเนื่องและยั่งยืน การจักสานตะกร้าไม้ไผ่ ได้สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ถ่ายทอดภูมิปัญญาจาก รุ่นสู่รุ่น เกิดจากความคิดในการนำเอาไม้ไผ่ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่มีอยู่ในหมู่บ้าน นำมาแปรรูปเป็นตะกร้า
คุณตาตวน ทะรินรัมย์ เป็นอีกท่านหนึ่งที่อาศัยอยู่บ้านศรีเจริญ หมู่ที่ 7 ตำบลเมืองโพธิ์ อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีความรู้ ความสามารทและฝีมือในการจักสานตะกร้าไม้ไผ่ ผลงานผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นมีความประณีต สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นต้องใช้ความตั้งใจเพื่อให้ชิ้นงานออกมาดี เป็นที่ยอมรับ โดยผลงานแต่ละชิ้นที่ทำเสร็จจะจำหน่ายในชุมชนและมีพอค้านอกชุมชนมารับไปจำหน่ายต่อซึ่งทำให้มีรายได้เข้ามาจุนเจือครอบครัว
วิธีการทำตะกร้า
๑. ตัดไม้ไผ่แก่มาผ่าซีกและผ่าแบ่งเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ ขนาดประมาณ ๑ ซม. และอีกส่วนหนึ่งผ่าประมาณ ๑ นิ้ว เพื่อใช้ทำขอบปากตะกร้าและมือจับ
๒. นำแต่ละชิ้นที่ผ่าไว้ ลอกใช้แต่ส่วนเปลือก โดยใช้มีดคม ๆ เหลาหรือขูดเนื้อไม้ออกและเหลือแต่ส่วน เปลือกบาง ๆ และเหนียว
๓. เริ่มต้นสานตะกร้า โดยเริ่มที่ก้นก่อน โดยใช้ส่วนที่แข็งกว่าและหนากว่าสานที่ก้น ความยาวของไม้ ตามขนาดของตะกร้า เส้นที่แข็งกว่าสานขึ้นตามแนวตั้ง ความห่างเท่า ๆ กัน ส่วนเส้นไม้ไผ่ที่บาง นิ่ม สานตามขวางชั้นมาเรื่อย ๆ แน่น มีลักษณะเป็นวงกลมแต่ปากตะกร้าจะกว้างกว่าก้นตะกร้า พอได้ ขนาดตามต้องการใช้ไม้ไผ่ขนาด ๑ นิ้ว ทำให้เป็นวงกลมและวางไว้ที่ขอบปากตะกร้า ใช้ไม่ไผ่ส่วนที่ ตั้งขึ้น พัน หรือ บิดลงไปด้านล่าง สานลงไปประมาณ ๑ นิ้ว จนแน่นไม่หลุด ตัดเศษที่เหลือทิ้ง ตกแต่ง ให้สวยงาม
๔. ใส่หูหรือที่หิ้ว ซึ่งทำจากไม้ไผ่และโค้งงอได้ใช้เชือกหรือหวายพันให้แน่น หรือใช้เชือกที่เป็นสีพันที่ มือจับจนมิด นำไปใช้งานหรือขายได้
๕. หากต้องการเก็บไว้ใช้งานได้นาน หากต้องการเก็บไว้ใช้งานได้นาน ทาเล็กเกอร์เคลือบไม้ไผ่ทั้งด้านในและด้านนอก แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง
ขั้นตอนการทำ
นำตอกยืน 4 เส้น วัดกึ่งกลางเส้นแล้ววางตัดกันเป็นเครื่องหมาย + เพื่อก่อก้น โดยสานลายสองขัดบี ในขั้นตอนนี้จะใช้ตอกยืนทั้งหมด จนได้แผ่นพื้นตะกร้าตามขนาดที่ต้องการจากนั้นนำเข้าแบบพิมพ์ตะกร้า (ตัวแบบพิมพ์ทำจากท่อนไม้เป็นรูปกลมขนาดใหญ่ – เล็ก) เพื่อสานผนังตะกร้าต่อจากก้นโดยใช้ตอกสาน เส้นกลมสานลายหนึ่งคือข้ามหนึ่งสอดหนึ่งโดยใช้เส้นตอกยืนเป็นหลักสานไปเรื่อยๆจนได้ขนาดของตะกร้า ตามต้องการโดยให้เหลือส่วนปลายของตอกยืนไว้ประมาณ 15 ซม. เผื่อไว้พับเป็นปากตะกร้าจากนั้นนำ ออกจากแบบพิมพ์การล้มปาก คือการพับปากตะกร้า โดยตอกยืนที่เหลือไว้นั้นจับรวมกันจับละ 4-5เส้น แล้วม้วนสอดเข้าตามช่องของปากตะกร้าในลักษณะเอียงล้มไปในทิศทางเดียวกันให้สวยงาม และแข็งแรง ใช้ไม้คัดก้น 2 อัน สอดปลายแหลมเข้าที่มุมก้นตะกร้าในลักษณะไขว้กัน (เครื่องหมาย X) เพื่อให้เกิดความ คงรูปแข็งแรง และตอกตีนคือไม้ตรงปล้องไม้ไผ่ทำเป็นปุ่มปลายแหลม จุ่มเทียนแล้วตีเข้ามุมก้นเป็นขาของ ตะกร้า 4มุม การรมควันนำตะกร้าไปรมควันไฟใช้ฟางข้าวที่ไม่ใช้แล้วเป็นเชื้อเพลิงรวมควันเพื่อกันมอด แมลงเพื่อให้เศษไม้เศษเสี้ยนไม้ไผ่ที่สานหลุดออกสร้างสีสันดูให้เกิดความแข็งแรงแล้วนำไปเข้ารวงตะกร้า รวงตะกร้าใช้ไม้เสียวหรือตอไม้ไผ่ก็ได้เป็นไม้ที่หาได้จากหมู่บ้านเป็นทรัพยากรในชุมชนที่นำมาใช้ประโยชน์ ได้โดยแต่งไม้กลมขนาดเล็กเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 ซม.ดัดให้โค้งเสียบเข้าขอบปากตะกร้าแล้วใช้หวายหรือ เครือไม้ผูกร้อยให้หูรวงและขอบตะกร้ายึดติดกันแน่น นำไปใช้ประโยชน์หรือจำ หน่ายได้หากต้องการความสวยงามเพิ่มขึ้นก็ทาแลกเกอร์เพื่อรักษาไม้และให้ความสวยงาม