นางสาวเบญญา เลี่ยมนางรอง
ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก เหลือขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว ชาวบ้านในตำบลเมืองฝางโดยส่วนใหญ่ปลูกพืชผัก และเลี้ยงสัตว์ไว้บริโภคในครัวเรือนจึงยกตัวอย่างครัวเรือนที่ทำสวนแบบผสมผสานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
สวนริมคลอง ของคุณธเนศ หอมจันทร์ มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 2 ไร่ 2 งาน ตั้งอยู่ ณ บ้านโคกแสลงน้อย ตำบลเมืองฝาง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ จากการสัมภาษณ์คุณธเนศ หอมจันทร์เล่าว่าตอนแรกผมก็ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นทั่วไปหลังเรียนจบไม่ได้คิดอะไรมากมายจนถึงจุดที่อายุเริ่มมากขึ้นจึงเริ่มคิดว่าอยากตื่นมา ลงไปเดินรอบๆสวนกลับมาสามารถประกอบอาหารได้เลยไม่ต้องเสียเงินซื้อวัตถุนอกจากเครื่องปรุงรสแต่ว่าก่อนที่จะมีวันนี้ก่อนที่จะประสบผลสำเร็จผมก็ประสบปัญหามาไม่น้อยเลย อย่างแรกเลยปัญหาเงินทุนที่ต้องใช้ค่อนข้างมากในการจ้างแรงงาน แต่เพราะมีครอบครัวที่ดีคอยสนับสนุนอยู่ตลอดจึงเกิด “”สวนริมคลอง”” ขึ้นตามที่คิดไว้ มีโอกาสถามย้อนไปว่าชื่อสวนริมคลอง มีความเป็นมายังไง เจ้าของสวนให้คำตอบง่ายๆเลยว่าตั้งอยู่ติดฝั่งคลองเลยตั้งชื่อนี้ โดยภายในสวนมีพื้นที่ทั้งหมด 2 ไร่ 2 งานแบ่งเป็นนา 1 ไร่ ปลูกข้าว และขุดบ่อ 1 บ่อไว้พักน้ำที่ได้จากการเจาะบาดาลและเลี้ยงปลานิล ปลาหมอเทศ ปลาดุก นอกจากนี้ภายในสวนมีผักสวนครัวมากมาย ได้แก่ ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักชี ต้นหอม ถั่วฝักยาว ข่า มะเขือเทศ กระเพรา และอีกมากมาย บริเวณคันนาก็ไม่ปล่อยให้พื้นที่เสียปล่าวปลูกไม้ยืนต้นหลายชนิดได้แก่ สัก พะยูง ยางนา พลวง เรียกได้ว่าใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ สอบถามเจ้าของสวนว่าปลูกเยอะขนาดนี้บริโภคทันไหม เจ้าของสวนตอบว่าถ้าเราบริโภคไม่ทันก็จะนำไปแบ่งให้ญาติๆภายในหมู่บ้านและจำหน่ายให้ผู้ที่สนใจ สวนริมคลองเป็นสวนเดียวในหมู่บ้านที่ทำเกษตรแบบผสมผสาน
ถามว่าได้อะไรจากสวนแห่งนี้ เจ้าของสวนตอบว่าถ้าถามเรื่องรายได้ก็ไม่ได้มากมายอะไรจากผลผลิตที่เราปลูกแต่สิ่งที่ได้จริงๆคือความสุขทางใจมากกว่าได้ทำในสิ่งที่เราชอบ ได้เห็นรอยยิ้มของครอบครัวเวลาเดินชมสวนได้ตื่นขึ้นมาเห็นผลผลิตเติบโต แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
