โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (1ตำบล 1 มหาวิทยาลัย)

ข้าพเจ้า นางสาวนีรนุช อินทรนิท ประเภท ประชาชน หลักสูตร SC-07
ได้ลงพื้นที่ หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 7 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 10 หมู่ที่19 ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบรีรัมย์

ข้าพเจ้าพร้อมคณะอาจารย์ นักศึกษา บัณฑิตจบใหม่ ประชาชน ได้ประชุมหารือรวมกัน ในวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา เรื่องการจัดกิจกรรม ให้ความรู้เรื่องปลาส้มสมุนไพร การเตรียมอุปกรณ์ เอกสารต่างๆ จำนวนหนึ่ง เพื่อให้ความรู้ ให้คำแนะนำแก่ผู้ที่สนใจ ร่วมกิจกรรม ในครั้งนี้ ทางเรา หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อย แก่ผู้ที่สนใจ นำสูตรปลาส้มไปพัฒนาต่อยอด สร้างเป็นรายได้ต่อไป

ปลาส้ม ไม่ว่าภูมิภาคไหนๆของประเทศไทย ก็มีให้เลือกซื้อ เลือกทานกันอย่างแพร่หลายมากหมาย เพราะปลาส้มนั้นเป็นการนำปลามาแปรรูป เป็นวิธีการถนอมอาหารอีกวิธีหนึ่ง เพื่อให้ปลาที่ได้มานั้นอยู่ได้นานมากขึ้น ส่วนการหมัก รสชาติของปลาที่ได้ จะมีรสเปรี้ยว สามารถใช้ปลาทั้งตัว หรือใช้เฉพาะเนื้อปลาก็ได้ สำหรับใครที่ชอบทาน สามารถนำไปทำตามได้เลย


โดยมีสูตรปลาส้ม มาแนะนำ ทั้งหมด 3 สูตร ดังนี้

1.ปลาส้มสูตรขมิ้นผสมกระชาย

2.ปลาส้มสูตรกระชาย

3.ปลาส้มสูตรสมุนไพร

วัสดุอุปกรณ์ในการทำปลาส้มตัว

– กะละมังสเตนเลส ขนาดใส่ปลาได้ประมาณ 3-5 กก. 1 ใบ
– กะละมังพลาสติก ไว้สำหรับแช่หรือหมักปลา 1 ใบ
– ปลาตะเพียน
– ข้าวสวยสุก 1 ถ้วย
– เกลือ 1 ถ้วย (อาจจะใช้ไม่หมด แต่ก็เอามาเผื่อไว้ค่ะ)
– กระเทียม 1 ถ้วย โคลกหยาบๆ
– ใบสมุนไพร
– กระชาย
– ขมิ้นชัน
– น้ำสะอาด


วิธีทำปลาส้ม
จะนำปลาตะเพียน มาล้างทำความสะอาด ผ่าท้องควักไส้ ขอดเกล็ดออกให้หมด
เมื่อล้างสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้บั้งตามยาวของตัวปลา แล้วนำเกลือมาทาทั่วตัวปลา ใส่เกลือเข้าไปในท้องปลาและในเหงือกของปลาที่เราทุบจนอ่อนแล้ว ผสมแป้งข้าวเจ้า กับน้ำ แล้วนำไปล้างปลาอีกครั้ง เพื่อขจัดกลิ่นคาว จากนั้นนำปลาที่ล้างสะอาดมาหมักกับเกลือป่น ประมาณ 1 ชั่วโมง หลักจากนั้นล้างปลาด้วยน้ำสะอาด อีกครั้ง


แล้วนำเกลือป่น ข้าวสุก เกลือ และกระเทียมบด ผสมให้เข้ากัน นำมาใส่ในท้องปลาแต่ละตัวให้เต็มท้อง แล้วนำปลาไปหมักไว้ ปิดฝาให้มิดชิดทิ้งไว้ 3-4 วัน
ขั้นตอนสุดท้าย ตักใส่ถุงพลาสติก หือตามที่ต้องการ


การเก็บรักษาปลาส้ม
ปลาส้มที่หมักจนได้รสเปรี้ยวเหมาะแก่การรับประทานแล้ว หากเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องหรือวางไว้ในตู้กับข้าวจะเก็บได้นาน 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับความร้อนของอากาศ หลังจากนั้น ก็จะเปรี้ยวมาก ไม่เหมาะรับประทาน แต่หากเก็บไว้ในตู้เย็นประมาณ 8-10 ºC จะเก็บได้นาน 3-4 สัปดาห์ หากเก็บในช่องแช่แข็งจะเก็บได้นานประมาณ 3 เดือน เป็นการถนอมอาหารได้นานมากขึ้น

ข้อแนะนำ
ทำให้สะอาด ปิดให้มิดชิด อย่าให้แมลงวันตอม


ข้อมูลที่ได้รับมา ได้นำมาวิเคราะห์ในส่วนที่พบเจอมา เช่น ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมกับรัยฟัง ความต้องการของประชาชนให้ได้รับข้อมูลในเชิงลึก และเป็นจริงให้มากที่สุด

ผู้เขียนบทความ นางสาวนีรนุช อินทรนิท

ประเภท ประชาชน

SC-07 คณะวิทยาศาสตร์

ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์

อื่นๆ

เมนู