“รักษ์ไหม” นี้ที่แม่ทอ
สมควร สีชมภู
ผ้าไหมเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของดินแดนอีสานบ้านเราเรื่องราวของผ้าไหมได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ลวดลายบนผ้าไหมมีที่มาจากเรื่องราว วัฒนธรรมต่างๆ ในท้องถิ่นนั้นๆ ถูกถ่ายทอดไว้บนผืนผ้า ทำให้เกิดความสวยงาม แปลกตา และเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่นไป
วันนี้ผู้เขียนจะนำเสนอเรื่องราวชีวิตที่น่าประทับใจของคุณพิชญ์สุมาลย์ ราชวิชา บ้านหนองเกาะพัฒนา ซึ่งเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเนื่องจากโรคระบาดและกลับถิ่นฐานบ้านเกิดมาเพื่อสืบสาน อนุรักษ์และต่อยอดในสิ่งที่แม่ได้ทำไว้ให้คือ “การทอผ้า”
พี่พิชญ์สุมาลย์เล่าให้ฟังว่า “พี่เองเดิมทำงานจิวเวอรี่ สามารถสื่อสารได้สามภาษา ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย เมื่อก่อนธุรกิจนี้ถือได้ว่าดีมากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อมากมาย ทุกวันนี้เศรษฐกิจบ้านเราย่ำแย่ เจอโรคระบาด ตนเองทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัดเจอมรสุมทางเศรษฐกิจตกต่ำ ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในบ้านเราเลย จึงได้ตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่กับแม่ ทุกวันนี้ทำมาหากินด้วยการค้าขายขนม อาหารอยู่ที่หน้าบ้าน แต่พี่สู้น่ะเพราะพี่มีแม่ มีญาติ ลูกหลานอยู่ด้วยกันอบอุ่น”
“พี่จะเล่าให้ฟัง ที่มาในการขายผ้าไหมให้แม่ทางออนไลน์ แม่กับญาติของแม่ทอผ้ามาตั้งแต่เป็นสาวก็ทอตามที่เขาทอๆกันนั่นล่ะ ทุกวันนี้มีกลุ่มวิสาหกิจของอีกหมู่บ้านหนึ่งอยู่ใกล้กันจึงได้รวมกันทอผ้าจำหน่าย พี่เล่นอินเตอร์เน็ตก็เห็นว่าลองโพสขายทางอินเตอร์เน็ตดูในเฟสบุ้ค พอทำไปทำมามีลูกค้าสนใจจำนวนมาก สั่งซื้อเข้ามาตลอดเลยน่ะ แต่คนทอก็มีแม่ทำคนเดียว ท่านทำไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เดี๋ยวนี้พี่ก็เริ่มฝึกหัดทำผ้าไหม ทอผ้าไหมกับแม่แล้วน่ะ ค่อยๆทำไปคงจะดีขึ้น แล้วทีนี้พี่ก็สนใจที่จะปรับเปลี่ยนหรือแปรรูปผลิตภัณฑ์น่ะให้เป็นไปตามความต้องการของคนซื้อเช่นวัยรุ่น วัยทำงาน พี่คิดว่าประมาณนี้ก็สามารถอยู่รอดและเลี้ยงครอบครัวได้” คำสัมภาษณ์จากคุณพิชญ์สุมาลย์ ราชวิชา บ้านหนองเกาะพัฒนา
เรื่องราวนี้อาจจะเป็นกำลังใจให้แก่ผู้อ่านได้ สรุปสั้นๆ จากเรื่องราว“รักษ์ไหม” นี้ที่แม่ทอคือชีวิตต้องสู้ต่อไปเพื่อคนที่เรารักและคนที่รักเรา