จิตอาสา” หนทางอยู่ร่วมกันในสังคม เริ่มที่คุณ..
จิตอาสา” หนทางอยู่ร่วมกันในสังคม เริ่มที่คุณ..
การร่วมมือกันรณรงค์ส่งเสริม “จิตอาสา” ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นการเรียก “น้ำใจงาม”ของคนไทยให้ กลับมาอีกครั้งหนึ่ง และควรจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม เพราะ จะไม่จ้ากัดอยู่เฉพาะญาติมิตร เพื่อน หรือคนรู้จักเท่านั้น แต่ควรต้องเผื่อแผ่ ดูแลสังคมไทย ดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน ตลอดจนปัญหาต่างๆรอบๆตัวร่วมกัน ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ท้าดีให้เป็นรูปธรรมกันมากขึ้นใน ไม่เพียงแต่ รอดูว่า ใครจะรับผิดชอบเรื่องอะไร แต่ ควรต้องออกมา มีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วยกัน
วันที่ 16 ตุลาคม 2564 ข้าพเจ้านายพีระพงษ์ ลาหนองแคน และทีมปฎิบัติงานU2T ตำบลสตึก อำเภอสตึกจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ปฎิบัติงานทำจิตอาสาพัฒนาชุมชน บ้าน วัด และโรงเรียน
โคยได้เลือก 1.ชุมชนบ้านยางน้ำใส ตำบลสตึก อำเภอสตึก 2.วัดบ้านยางน้ำใส 3.โรงเรียนทศพรวิทยา โดยได้มีการแบ่งกลุ่มเพื่อกระจายกำลังการทำงาน ทั้งปลูกต้นไม้และพืชผักสวนครัวในบริเวรวัด ทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ เช่น ศาลาวัด ถนนในเส้นทางหมู่บ้าน และถนนตามเส้นทางในการเดินทางมายังวัดบ้านยางน้ำใสและได้ความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่ โดยการประสานงานผ่านผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งท่านผู้ใหญ่บ้านต่างให้การตอบรับกับคณะปฎิบัติงานเป็นอย่างดีและได้ชวนชาวบ้านในชุมชนมาร่วมพัฒนาหมู่บ้านและพื้นที่สาธารณะไปพร้อมกัน เป็นภาพที่งดงามของการร่วมแรงร่วมใจในการทำงานเพื่ออยากให้ชุมชนมีภาพลักษณ์ที่สวยงามและมีความน่าอยู่มากขึ้น พร้อมกับได้เห็นความศรัทธาในพระพุทธศาสนาชาวบ้านต่างร่วมยินดีกับการบูรณะวัดให้มีความสะอาด สวยงามมากขึ้น
ตัวกระผมและเพื่อนผู้ปฎิบัติงาน และชาวบ้านต่างเข้าใจกับคำว่า การทำจิตอาสามากขึ้น “จิตอาสา” ว่า คือจิตที่ไม่นิ่งดูดายต่อสังคม หรือความทุกข์ยากของผู้คน และปรารถนาเข้าไปช่วย ไม่ใช่ ด้วยการให้ทาน ให้เงินแต่ด้วยการสละเวลา ลงแรงเข้าไปช่วย ด้วยจิตที่เป็นสุขที่ได้ช่วยผู้อื่น จะเน้นว่า ไม่ใช่ แค่ท้าประโยชน์เพอื่ ผู้อื่นอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนา “จิตวิญญาณ” ของเราด้วย
“จิตอาสา” คือ ผู้ที่มีจิตใจที่เป็นผู้ให้ เช่น ให้สิ่งของ ให้เงิน ให้ความช่วยเหลือด้วยก้าลังแรงกาย แรงสมอง ซึ่งเป็นการเสียสละ สิ่งที่ตนเองมี แม้กระทั่งเวลา เพื่อเผื่อแผ่ ให้กับส่วนรวม…อีกทั้งยังช่วยลด “อัตตา” หรือ ความเป็นตัว เป็นตนของตนเองลงได้บ้าง
“อาสาสมัคร” เป็นงานที่เกิดจากผู้ที่มี จิตอาสา ซึ่งมีความหมายอย่างมาก กับสังคมส่วนรวม เป็นผู้ที่เอื้อเฟื้อเสียสละ เวลา แรงกาย แรงใจ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น หรือ สังคมให้เกิด ประโยชน์และความสุขมากขึ้น
การเป็น “อาสาสมัคร” ไม่ว่าจะเป็นงานใดๆ ก็แล้วแต่ที่ท้าให้เกิดประโยชน์ในทางบวก ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราควรท้าทั้งสิ้น คนที่จะเป็นอาสาสมัครได้นั้น ไม่ได้จ้ากัดที่ วัย การศึกษา เพศ อาชีพ ฐานะ หรือ ข้อจ้ากัด ใดๆ ทั้งสิ้นหากแต่ต้องมีจิตใจ เป็น “จิตอาสา” ที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นหรือ สังคม เท่านั้น