จากการปฏิบัติงานของกลุ่ม SC03 ตำบลสนวน อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ การยกระดับเศรษฐกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัยเพื่อสร้างรากแก้วให้ประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ในการดูแลของคณะอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ ผลการปฏิบัติงานของเดือนพฤษภาคม 2564 นี้ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับกลุ่มและคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ตำบลสนวนมีทั้งหมด 12 หมู่บ้าน ได้ลงพื้นที่ทำกิจกรรม 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านสนวนนอก หมู่2,บ้านสนวนใน หมู่3,บ้านแซะซอ หมู่4, บ้านจบก หมู่6
ตำบลสนวนมีคลองและลำห้วยตลาดไหลผ่าน ทางด้านทิศตะวันออกและทางด้านทิศตะวันตกเป็นคลองน้ำไหลมาจากชลประทานลำห้วยตลาด ภาษาที่ใช้สื่อสารคนในชุมชนด้วยกันเป็นภาษาท้องถิ่นเขมร หรือ ขะแมร์ และภาษาไทยทางราชการ ในด้านดำรงวิถีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายแบบพี่น้อง สามัคคีปรองดอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพผลิตการทำนาปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เมื่อได้เส้นไหมมาหลังจากฤดูการทำนาเก็บเกี่ยวเสร็จก็จะเอาไหมมาทำฟอกผ้าย้อมเส้นไหมด้วยสี จากธรรมชาติให้ติดแน่นทนทาน คนที่นี่เขาสืบทอดเอกลักษณ์การทอผ้ามาตั้งแต่รุ่นปู่ทวดย่าทวด “บ้านสนวนนอก หมู่2” ปัจจุบันมีการเปิดเป็นฐานการเรียนรู้ด้านการผลิตผ้าไหมของชุมชนให้นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้วิธีการผลิตได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม การฟอกไหม การทอผ้าไหม และการแปรรูป เป็นการเรียนรู้ที่ครบวงจร ผ้าไหมที่ขึ้นชื่อคือผ้าไหมดั้งเดิมลายหางกระรอกลักษณะทั่วไปของผ้าหางกระรอกคือ จะเป็นผ้าพื้นเรียบชนิดหนึ่ง มีความกว้าง 1 หลา ความยาว 4 หลา มักมีสีเข้มเช่น สีเม็ดมะขาม สีเปลือกมังคุด สีแดงครั่ง ฯลฯ โดยจะมีลายเหลือบสีในตัว มองเหมือนภาพ 3 มิติ ทั้งนี้ผ้าหางกระรอกโบราณจะมีริ้วเชิงชายคั่นที่ชายผ้าทั้งสองด้าน ทอด้วยเส้นไหม ที่ต่างสีจากสีพื้น จะทอเป็นเส้นเล็กๆ 8-9 เส้น และมีเส้นกรอบบังคับไว้อีกข้างละ 3-4 เส้น ตามความพึงพอใจของผู้ทอ ในเดือนนี้กระผมได้เข้าร่วมทำกิจกรรมฟอกไหมและย้อมไหมด้วยวัสดุธรรมชาติตามชื่อโครงการ“การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมทอมือเพื่อเพิ่มมูลค่าสู่การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน” คือการนำเส้นไหมดิบที่ได้จากการสาวไหมไปฟอกหรือการลอกกาวไหมออกก่อน การลอกกาวไหมเป็นขั้นตอนที่สำคัญและมีผลต่อคุณภาพของไหม ถ้าฟอกกาวไม่ดีเวลาย้อมจะทำให้สีไม่เสมอ และถ้าย้อมไม่ดีเวลานำผ้าไปซักก็จะเกิดปัญหาสีตกตามมา สารที่ใช้ในการฟอกไหมเป็นน้ำด่างที่ได้จากวัสดุจากธรรมชาติและการใช้สารเคมี จะทำให้ไหมสีขาว ขาวนวลขึ้น ต่อมานำเส้นไหมไปล้างในน้ำเย็น แล้วนำเส้นไหมขึ้นมาบิดเพื่อนำน้ำออกแล้วกระตุกเส้นไหมให้ยืดและตึงนำไปตากในที่ลมโกรกให้แห้งแล้วก็เก็บม้วนไว้แล้วนำไปกวัก สีที่ได้จากพืช จะนำมาจากส่วนต่าง ๆ ได้แก่เปลือก ราก แก่น ใบ ดอก และผล ส่วนสัตว์นันได้มาจาก “ตัวครั่ง” วัตถุดิบ ที่นำมาใช้ และกระบวนการในการย้อมสีธรรมชาตินั้น แต่ละท้องถิ่นก็จะมีความแตกต่างกันสีสันที่ได้จึงแตกต่างกันไป