บ้านเมืองฝางเป็นหมูบ้านที่มีประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนาเป็นหลัก โดยจากการว่างเว้นจากการทำนาชาวบ้านก็จะนำเครื่องไม้เครื่องมือทำกิน ซึ้งการทอเสือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชาวบ้านยึดเป็น จากการสัมภัาษณ์ นางจ๋า เเย้มประโคน บ้านเลขที่ 117/15 ต.เมืองฝาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นที่ทอเสือ ขายในราคา ผืนละ 200-300บาท การทอเสื่อกก เป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่นำเอาต้นกกมาแปรสภาพให้เป็นเส้น ย้อมสี แล้วสานทอให้เป็นแผ่นผืน เพื่อนำมาใช้ปูลาดรองนั่งหรือนอน หรือทำธุรกรรมต่างๆ ตลอดจนทำพิธีกรรมทางศาสนาและความเชื่อ เสื่อกก เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีใช้กันอยู่ทั่วไปทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะต้นกกเป็นพืชธรรมชาติที่ขึ้นอยู่ทั่วทุกภูมิภาค และภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่นำต้นกกมาแปรสภาพก็มีลักษณะคล้ายกัน หรือได้อิทธิพลทางความคิดจากกันและกัน ทำให้เสื่อกกถูกจัดได้ว่าเป็นปัจจัยจำเป็นอย่างหนึ่ง ต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในอดีต คือภูมิภาคหนึ่งที่มีการสืบสานภูมิปัญญาทางด้านการทอเสือกกนี้มายาวนาน จนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อื่นเข้ามาทดแทนการใช้เสื่อกกมากมายให้เลือก นับตั้งแต่เสื่อน้ำมัน พรม กระเบื้องปูพื้น และอื่นๆ การทอเสื่อกก เป็นภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น ที่นำเอาต้นกกมาแปรสภาพให้เป็นเส้น ย้อมสี แล้ว ขั้นตอนการทอเสื่อกก 1 นำไหลมาตัดให้เท่ากัน ไหลที่นำมาตัดนั้นจะต้องเป็นลำที่สวยงาม ไม่แก่มาก และไม่อ่อนมากจนเกินไป 2 หลังจากนั้นนำไหลมาสอย เอาไส้ทิ้งเอาแต่เส้น ไหล 1 ลำ 3 นำไหลมาตากให้แห้ง จะย้อมได้สวยตากแดดประมาณ 1 อาทิตย์ วิธีการย้อม 1.เลือกสีสำหรับย้อมที่มีสีสันสวยงาม เช่น สีแดง สีบานเย็น สีม่วง 2. ก่อไฟแล้วนำปี๊ป หรือกระทะใส่น้ำพอประมาณท่วมเส้นกกนำมาตั้งบนเตารอให้น้ำเดือด ก็นำสีที่เลือกมาเทลง จากนั้นกำไหลลงย้อม 3.นำเส้นกกที่ย้อมสีแล้วลงล้างในน้ำเปล่าเพื่อให้กกอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น เหนียว และไม่ขาด ซึ่งจะง่ายต่อการทอ ทอแล้วนำไปตากแดดที่จัดจนแห้งนำเส้นกกที่ย้อมสีตากแห้งแล้วมากเก็บมัดรวมกัน โดยแยกเป็นสี แต่ละสี นำเชือกไนลอนหรือเชือกเอ็นขึงที่โฮมทอเสื่อให้เป็นเส้นตามโฮมและฟืมนำกกหรือไหลสอดเข้ากับไม้สอดเพื่อที่จะสอดเข้ากับโฮมทอเสื่อ เมื่อสอดกกหรือไหลเข้าไปแล้วผลักฟืมเข้าหาตัวเองให้กกหรือไหลแน่นติดกันเป็นลายต่าง ๆ ขั้นตอนสุดท้ายคือการพับขอบเสื่อ และมัดเพื่อให้แน่นๆ

อื่นๆ

เมนู