ข้าพเจ้า นางสาวจุไรรัตน์ บัญดิษรัมย์ ประเภทบัณฑิตจบใหม่ 

หลักสูตร ID:10 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามอัตลักษณ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยมีส่วนร่วมของชุมชน ตำบลกระสัง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

       ตามการจัดรูปแบบโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ ( 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ) ได้มีการจัดโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อมุ่งเน้นฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับชุมชน ทั้งการสร้างงาน การพัฒนาอาชีพในชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ในการดำเนินโครงการครั้งนี้ได้มีมหาวิทยาลัยในพื้นที่ทั่วประเทศเข้ามาดำเนินการโดยใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีอยู่ทำงานประสานและร่วมงานกับจังหวัดและหน่วยงานอื่นๆมากมาย เพื่อให้การทำงานบูรณาการนี้ ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลอย่างมีประสิทธิภาพที่สามารถนำไปสู่การลดความยากจน ช่วยพัฒนาสินค้าบริการชุมชน การส่งเสริมพัฒนาฝีมือแรงงานชุมชน และการพัฒนาชุมชนเพื่อให้เกิดแหล่งท่องเที่ยว อย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน 

         ทำให้ในการทำงานของเดือน มิถุนายน ได้มีการวางแผนกับทีมงานและอาจารย์ประจำหลักสูตร ให้มีการจัดกิจกรรมอบรมครั้งที่ 1 ให้กับชุมชน โดยกิจกรรมการอบรมมีชื่อว่า “ การอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างต้นแบบเพื่อพัฒนาและยกระดับสินค้า/ผลิตภัณฑ์ (กลุ่มสบู่สมุนไพร)” การจัดกิจกรรมอบรมนี้ได้จัดขึ้นเมื่อ วันที่ 12 มิถุนายน 2564 ณ ศาลากลางบ้านกระสัง หมู่ที่ 1 เราและทีมงานได้จัดอบรมไว้ 2 เวลา โดยช่วงเช้าเวลา 7.30 น. – 12.15 น. จะเป็นการจัดอบรมบรรยายเรื่อง “ขั้นตอนการออกแบบ แบบพิมพ์สบู่” โดยได้วิทยากรที่มีความรู้ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์อย่าง อาจารย์วิชัย เกษอรุณศรี มาถ่ายทอดความรู้ให้แก่กลุ่มอาชีพชุมชน  ส่วนในช่วงบ่าย เวลา 13.00 น. – 17.30 น. ได้มีการอบรมบรรยายเรื่อง “ขั้นตอนและวิธีในการทำแม่พิมพ์สบู่” โดยมีวิทยากรที่มีความรู้อีกท่านคือ อาจารย์ ดร.ธวัชระพงษ์ วงศ์สกุล เข้ามาช่วยให้ความรู้แก่กลุ่มอาชีพอีกด้วย

         ในการอบรมนอกจากท่านวิทยากรทั้ง 2 ท่านจะให้ความรู้มากมายเกี่ยวกับการออกแบบแม่พิมพ์และวิธีการทำ ท่านยังมีกิจกรรมร่วมกับกลุ่มชาวบ้านในการให้ออกความคิดเห็นว่าแต่ละท่านมีความคิดเห็นอยากได้สบู่ลักษณะใด จึงได้มีการแจกดินน้ำมันให้กลุ่มชาวบ้านปั้นดินน้ำมันให้ออกมาเป็นรูปร่าง โดยชาวบ้านต่างมีความคิดเห็นเดียวกันว่าอยากให้สบู่สมุนไพรมีลักษณะที่แปลกใหม่เป็นอัตลักษณ์ เชื่อมโยงกับชุมชนมากที่สุด เพื่อจะสามารถตอบโจทย์กลุ่มตลาดและกลุ่มเป้าหมายได้

        ในการอบรมมีชาวบ้านท่านหนึ่งมีความคิดเห็นอยากให้สบู่ผลิตออกมาในรูปแบบของดอกมะสัง เพราะมีความแปลกใหม่ มีชื่อคล้องจองกับชื่อหมู่บ้านกระสัง และไม่มีที่ใดเหมือน อาจจะช่วยสร้างความแปลกใหม่และน่าจดจำให้กับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ข้าพเจ้าจึงได้ไปค้นหาความรู้เกี่ยวกับต้นและดอกมะสังว่ามีประโยชน์ในด้านผิวพรรณอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

        มะสัง หรือ หมากกะสัง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Feroniella lucida (Scheff.) Swingle) เป็นพืชในวงศ์ Rutaceae เป็นไม้ยืนต้นแผ่กิ่งก้านจำนวนมาก ลำต้นและกิ่งก้าน มีหนามแหลมยาว แข็ง ใบประกอบแบบขนนก แผ่นใบโค้งขึ้นด้านบนเล็กน้อย สีเขียวเข้ม เป็นมันวาว ตามผิวใบมีต่อมน้ำมัน ดอกออกเป็นช่อแยกแขนงที่ซอกใบ คล้ายดอกกระถิน เป็นปุย ๆ มีสีขาว ผลทรงกลมสีเขียวคล้ายผลมะนาว ผิวเปลือกมีลายเป็นคลื่น เปลือกแข็งและหนามาก ผลอ่อนเปลือกสีเขียว เมื่อแก่จัดสีน้ำตาล มีเมล็ดจำนวนมาก

     ลักษณะส่วนต่างๆของต้นมะสัง
ราก และต้นมะสัง
มะสัง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีลำต้นสูงได้เต็มที่ประมาณ 10 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านมาก ทำให้แลดูเป็นทรงพุ่มหนา และเป็นรูปร่ม เปลือกต้นเล็กมีสีน้ำตาลอมเทา เปลือกลำต้นโตเต็มที่มีสีเทาอมดำ และแตกสะเก็ดเป็นแผ่นเล็กๆ ส่วนรากมะสังประกอบด้วยรากแก้ว และรากแขนง รากแก้วมีขนาดใหญ่ แทงดิ่งตรงลงดิน มีรากแขนงแทงออกด้านข้าง โดยรากแขนงส่วนที่โผล่พ้นดินจะสามารถแตกหน่อเป็นต้นใหม่ได้ใบมะสัง เป็นใบประกอบแบบขนนกออกเป็นแบบชั้นเดียวหรือสองชั้น ก้านใบหลักออกตามกิ่งเป็นกระจุก 1-3 ก้านใบ โดยออกเวียนรอบสลับตำแหน่งกันตามความยาวของกิ่ง

ดอกมะสัง
      ดอกมะสังออกเป็นช่อกระจุกบริเวณเดียวกับตาก้านใบหรือซอกใบ แต่ละซอกใบจะออก 1-2 ช่อดอก แต่ทั่วไปจะพบออกเพียงช่อเดียว ตัวช่อดอกมีก้านดอกขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร แตกก้านดอกย่อยเรียงเวียนสลับตำแหน่งตามความยาวของก้านดอก โดยก้านดอกย่อยยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตรถัดมาเป็นใบประดับจำนวน 1 ใบ ลักษณะเป็นรูปรี และถัดมาจะเป็นตัวดอก

ผลมะสัง
      ผลมะสังมีลักษณะกลม คล้ายกับผลมะนาว ขนาดผลประมาณ 4-8 เซนติเมตร เปลือกผลมีสีสีเขียวเข้ม ค่อนข้างเรียบ ผลอ่อนมีสีเขียว เนื้อเปลือกอ่อน เมื่อแก่มีสีน้ำตาล เนื้อเปลือกผลแข็ง หนาประมาณ 1 เซนติเมตร เปลือกมีกลิ่นหอม ถัดมาจากเปลือกผลจะเป็นส่วนของเนื้อ และเมล็ด เนื้อผลมีลักษณะเป็นวุ้นใส มีเมล็ดจำนวนมากแทรกอยู่ภายในวุ้น เมล็ดมีรูปไข่หรือรี มีขนาดเล็กประมาณ 3-4 มิลลิเมตร เปลือกเมล็ดมีสีเหลือง เปลือกเมล็ดแข็ง ภายในเป็นเนื้อเมล็ดสีขาว

                          สรรพคุณของมะสัง
    ใบ
– ช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
– ช่วยสมานแผล โดยใช้ใบขยำทารักษาแผลสด
– ช่วยบำรุงร่างกาย

     แก่นมะสัง
– สตรีหลังคลอดบุตรในอีสานานิยมใช้แก่นมะสังร่วมกับแก่นมะขามต้มน้ำดื่มขณะอยู่ไฟ
รากมะสัง
– รากใช้ต้มน้ำดื่มหรือนำมาฝนดื่ม ช่วยบรรเทาอาการไข้ต่างๆ

       ผลมะสัง
– ผลมะสังใช้ทำน้ำผลไม้ ช่วยแก้กระหาย ช่วยให้สดชื่น
– บรรเทาอาการเจ็บคอ แก้อาการไอ
– แก้อาการท้องผูก ช่วยเป็นยาระบาย ช่วยในการขับถ่ายได้ง่าย
– ช่วยบรรเทาอาการไข้ต่างๆ

มีวิตามินซี ผลมะสังยังมีวิตามินซี ซึ่งผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวจะอุดมไปด้วยวิตามินซีที่จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่น สมานผิว ลดการเกิดสิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวชุ่มนุ่มขึ้นด้วยนะคะ 

       การสกัดน้ำมะสัง
ผลมะสังให้รสเปรี้ยวจัด สามารถนำผลมาสกัดออกมาเป็นน้ำได้โดย
1. เลือกผลมะสังที่แก่ จากนั้น นำมาผ่า และคว้านเมล็ดออก
2. นำผลที่เตรียมได้มาล้างน้ำให้สะอาด ก่อนนำมาต้มน้ำ นาน 10-15 นาที
3. จากนั้นแยกเอาเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำด้วยการใช้ผ้ากรอง

https://puechkaset.com/มะสัง/

     เกร็ดความรู้!! ผลมะสัง มีผิวเปลือกนอกเป็นตุ่ม ๆ คล้ายมะกรูด แต่มีลูกแป้น ๆ คล้ายมะนาว เปลือกจะแข็งมาก ส่วนภายในลูกมะสัง จะไม่เหมือนมะนาว และมะกรูด ที่มีเนื้อเป็นกลีบ ๆ แต่ข้างในจะมีเมล็ดคล้าย ๆ กับเมล็ดฝรั่งเมื่อกัดกินเข้าไปแล้ว จะรู้สึกว่ามีรสชาติเปรี้ยว ซ่า นอกจากนี้ มะสัง ยังมีความโดดเด่น เรื่องกลิ่นหอมเพราะมีน้ำมันหอมระเหย ที่เกิดจากการสะสมอาหารของพืชที่เปลี่ยนรูปไปเป็นส่วนต่าง ๆ กลิ่นหอมของมะสังนั้น จะมีไว้เพื่อดึงดูดสัตว์ให้มากินผล

https://www.bloggang.com/m/viewdiary.php?id=poungchompoo&month=05-2015&date=08&group=49&gblog=66

       จากการศึกษาข้อมูลทำให้ทราบกันแล้วใช่ไหมคะว่ามะสังนอกจากจะมีวิตามินซีแล้ว มะสังยังมีกลิ่นหอมที่เป็นธรรมชาติสามารถใช้ความหอมของมะสังมาใช้ประโยชน์ในการแต่งกลิ่นสบู่ได้อีกด้วยค่ะ

ลิงค์แบบทดสอบ

https://forms.gle/91MJFWp8UnfY5swZA

 

 

อื่นๆ

เมนู