ข้าพเจ้านางสาวสุวรรณัตน์ นิเรียงรัมย์ ผู้รับจ้างงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ดำเนินงาน ตำบลบ้านปรือ อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ในโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย (มหาวิทยาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ) และคณะได้มีการลงพื้นที่พบผู้นำชุมชน ชาวบ้านโดยใน 3 เดือนที่ผ่านมานี้ ได้เข้าไปยังพื้นที่เพื่อสำรวจข้อมูลชุมชนตำบลบ้านปรือ ได้เห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นกันเองช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำไร่ ทำนา ค้าขายตามอัตภาพในพื้นที่ชนบทแห่งนี้
เราจึงเล็งเห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อถึงฤดูน้ำหลากเกิดน้ำท่วมพืชผลเสียหาย ครั้นเข้าสู่หน้าร้อนก็แล้งจนน้ำแห้งขอด จึงทำให้เกิดโครงการธนาคารน้ำใต้ดินขึ้นเพราะการทำธนาคารน้ำใต้ดินใช้หลักการเอาน้ำไปเก็บในชั้นใต้ดิน ใช้วิธีขุดบ่อบริเวณพื้นที่น้ำท่วมขัง หรือจุดรวมน้ำ เพื่อกักน้ำให้ซึมลงชั้นหิน เป็นการพักน้ำรวมไว้เหมือนธนาคารหรืออีกวิธีคือใช้เศษไม้ ขวดแก้ว เศษอิฐ กรวด หิน หรือวัสดุอื่นๆมาถมในบ่อเพื่อแทนที่น้ำให้น้ำล้นออกมาใช้ได้เร็วขึ้น แนวคิดนี้เป็นเหมือนกับการออมหรือกักเก็บน้ำต้นทุนไว้ใช้ในหน้าแล้ง หรืออุ้มน้ำในยามน้ำหลาก ขนาดของบ่อขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และการใช้ประโยชน์ ความลึกก็จะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสภาพดินและชั้นหิน แต่ต้องขุดลึกให้ถึงชั้นหินอุ้มน้ำสำหรับพื้นที่ ต.บ้านปรือ บ่อมีขนาดความกว้างปากบ่อ 1 เมตร ลึก 2 เมตร เพื่อให้ระดับใต้ดินน้ำเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มศักยภาพของแหล่งน้ำใต้ดินระดับตื้น ซึ่งเพิ่มโอกาสการใช้น้ำในช่วงหน้าแล้งได้
การออกแบบสร้างธนาคารน้ำใต้ดินอย่างมีประสิทธิผล ควรเป็นบริเวณมีที่แหล่งกักเก็บน้ำที่เหมาะสม ต้องใช้เทคโนโลยีการสำรวจที่ทันสมัยเข้าช่วย รวมทั้งรักษาสภาพแวดล้อมด้วย จึงเป็นการจัดการน้ำอย่างสมดุล อาจช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งได้ ผลการเปลี่ยนแปลงทำให้ระดับน้ำใต้ดินตื้นเพิ่มขึ้น เมื่อมีโอกาสบริหารจัดการน้ำใช้หลังฤดูเก็บเกี่ยว เป็นการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน เปลี่ยนคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ดีขึ้น