“นักเล่าเรื่อง” เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างความตระหนักให้ชุมชนเห็นคุณค่าของตนเอง นักเล่าเรื่องที่มีเสน่ห์จึง “เล่าจากใจ” ไม่ใช่ท่องจําจากตําราการจะทําเช่นนี้ได้ ก็หมายความว่านักเล่าเรื่องเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับชุมชน เป็นผู้หนึ่งที่ได้ประโยชน์จากการเล่าเรื่อง แม้จะไม่ใช่ประโยชน์โดยตรงในรูปของค่าจ้าง แต่ก็ได้ประโยชน์ทางอ้อมเช่นเดียวกับคนในชุมชนอีกมากมาย

ธุรกิจการท่องเที่ยวกระแสหลัก มีคําว่า “มัคคุเทศก์” หรือ ไกด์ แต่สําหรับชุมชนท่องเที่ยว สิ่งที่เราต้องการก็เพียงแค่ “นักเล่าเรื่อง” หรือ Story Teller นักเล่าเรื่อง เป็นผู้ถ่ายทอดคุณค่าของชุมชน ด้วยการบอกเล่า พูดคุยแบบมีชีวิตชีวา และไม่จําเป็นต้องมีรายได้โดยตรงจากการนําเที่ยว ในทางตรงข้ามนักเล่าเรื่องที่เก่ง จะช่วยทั้งชุมชน(รวมทั้งตัวนักเล่าเรื่องเอง) มีรายได้ทางอ้อมจากคุณค่าที่สื่อสารออกไป กระบวนการเตรียมนักเล่าเรื่องในแต่ละชุมชน ไม่จําเป็นต้องเหมือนกันแต่มีแนวทางเป็นหลักช่วยคิดเบื้องต้น ตัวอย่างเช่น “นักเล่าเรื่อง” เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างความตระหนักให้ชุมชนเห็นคุณค่าของตนเอง นักเล่าเรื่องที่มีเสน่ห์จึง “เล่าจากใจ” ไม่ใช่ท่องจําจากตําราการจะทําเช่นนี้ได้ ก็หมายความว่านักเล่าเรื่องเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับชุมชน เป็นผู้หนึ่งที่ได้ประโยชน์จากการเล่าเรื่อง แม้จะไม่ใช่ประโยชน์โดยตรงในรูปของค่าจ้าง แต่ก็ได้ประโยชน์ทางอ้อมเช่นเดียวกับคนในชุมชนอีกมากมาย

นักเล่าเรื่องเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนท่องเที่ยว จึงควรตระหนักว่า การท่องเที่ยวคือธุรกิจ และธุรกิจคือการเรียนรู้ เป็นธรรมดาที่ต้องมีการลองผิดลองถูกและนําบทเรียนมาปรับแก้ เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เดินหน้าต่อไป

เขียนโดย

อื่นๆ

เมนู