การดำเนินงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการประจำพฤษภาคม ได้มีการประชุมวางแผนร่วมกันกับทีม ในวันที่ 30 เมษายน 2564 และวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 เพื่อเตรียมความพร้องก่อนลงพื้นที่ และเตรียมอุปกรณ์สำหรับการลงพื้นที่อบรมและปฏิบัติงานจริงแบบทฤษฎีและการปฏิบัติ ต่อมาได้มีการส่งมอบอุปกรณ์ให้ทั้ง 4 หมู่บ้านในตำบลสนวน อำเภอห้วยราช จ.บุรีรัมย์ เพื่อเตรียมการก่อนอบรม ซึ่งทางทีมงานได้มีการกำหนดกิจกรรมการลงพื้นที่อบรมเชิงปฏิบัติการ 2 กิจกรรม ในหัวข้อแรก เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP ประเภทผ้าไหม(การย้อมสีธรรมชาติ) และหัวข้อที่สอง เรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมทอมือเพื่อเพิ่มมูลค่าสู่เศรษฐกิจชุมชน ซึ่งทั้ง 2 กิจกรรมกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 4 – 8 พฤษภาคม 2564
การย้อมสีธรรมชาติ คือ การนำเอาวัตถุดิบในธรรมชาติที่ได้จากพืช สัตว์ จุลินทรีย์ และแร่ธาตุต่างๆ มาทำการย้อมกับเส้นด้าย เพื่อนำมาใช้ในการทอผ้า เพิ่มสีสันให้กับเส้นด้ายให้มีความสวยงาม ซึ่งมีการสืบทอดเทคนิควิธีการย้อมมายังคนรุ่นหลัง เป็นวิธีการที่ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน ด้วยภูมิปัญญาของคนรุ่นก่อนได้นำเอาองค์ความรู้ในการย้อมสีผ้าด้วยวัสดุจากธรรมชาติที่ไม่เป็นพิษต่อผู้คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมมาสู่ลูกหลาน และเป็นเครื่องมือเลี้ยงชีพของชาวชนบท
อนึ่งในการใช้วัตถุดิบให้สีธรรมชาติ จากที่จะต้องคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย เช่นการนำเปลือกไม้มาใช้ ควรถากส่วนของลำต้น โดยไม่ให้ถึงแก่นไม้ ส่วนการนำแก่นไม้มาใช้ ควรใช้แก่นต้นไม้ที่ตายแล้วหรือใช้วิธีรัดกิ่ง ไม่ควรโค่นไม้ทั้งต้น สำหรับใบไม้ดอกไม้ควรเก็บบางส่วน เหลือไว้ให้พืชเจริญเติบโตต่อไป
จากการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ เพื่อช่วยส่งเสริมให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติกันมากขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติรวมทั้งกระบวนการที่ให้ได้มานั้นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก ความสนใจในการใช้สีจากวัสดุธรรมชาติในการย้อมผ้าเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา การอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สืบทอดกันมาจากอดีตให้คงอยู่ในสังคมสืบไปการย้อมสีธรรมชาติซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาท้องถิ่น และการย้อมสีธรรมชาติแม้มีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณสารให้สีในวัตถุดิบซึ่งมีน้อย ทำให้ย้อมได้สีไม่เข้มหรือต้องใช้ วัตถุดิบปริมาณมาก ไม่สามารถ ผลิตได้คราวละมากๆ และไม่สามารถผลิตสีได้คงที่ตามที่ตลาดต้องการ ทั้งสีสามารถซีดจางและมีความคงทนต่อแสงต่ำเพราะคุณภาพการย้อมสีธรรมชาติขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการที่ควบคุมได้ยาก การย้อมสีให้เหมือนเดิมทุกครั้งจึงทำได้ยาก นอกจากนี้การย้อมสีธรรมชาติหากขาดจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนอาจจะกลายเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมได้ อย่างไรก็ตาม การย้อมสีธรรมชาตินั้นไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ผลิตและผู้บริโภค และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม วัตถุดิบก็สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นโดย ไม่ต้องใช้สีเคมีที่นำเข้าจากต่างประเทศ สีธรรมชาติยังมีความหลากหลาย ตามชนิด อายุและส่วนของพืชและสัตว์ที่ใช้ ตลอดจนชนิดของสารกระตุ้นและขั้น ตอนการย้อม การย้อมสีธรรมชาติสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง สามารถถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลังเป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น ทำให้เห็นคุณค่าและรู้จักใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติ ความสัมพันธ์ระหว่างคนย้อมสีกับต้นไม้ก่อให้เกิดความรัก หวงแหนและเรียนรู้ที่จะอนุรักษ์ และปลูกทดแทนเพื่อการผลิตที่ยั่งยืนต่อไป
วีดีโอประกอบการปฏิบัติงานประจำเดือนพฤษภาคม